สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (14 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เตือนเกี่ยวกับแนวโน้มอุปทานน้ำมันที่ตึงตัวมากขึ้นในปีนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ หรือ 0.44% ปิดที่ 82.52 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 2.3% ในรอบสัปดาห์นี้
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 86.31 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 1.4% ในรอบสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ดี IEA เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับตลาดน้ำมันในวันศุกร์บ่งชี้ว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2566 สู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 101.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน
โดย IEA เปิดเผยว่า การปรับลดการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสจะทำให้ปริมาณน้ำมันลดลง 400,000 บาร์เรลต่อวันภายในสิ้นปี 2566
อย่างไรก็ตมรายงานของ IEA เตือนว่า การที่โอเปกพลัสประกาศลดการผลิตน้ำมันเมื่อวันที่ 2 เม.ย.นั้น อาจจะทำให้ปริมาณน้ำมันขาดแคลนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และจะทำให้ราคาเพิ่มขึ้นในขณะที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนอย่างมาก
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่เบเกอร์ ฮิวจ์ ผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐและแคนาดา ลดลงรายสัปดาห์ที่ 2 และ 7 แท่นตามลำดับ ซึ่งบ่งชี้ว่าผลผลิตน้ำมันในอนาคตนั้นจะลดลง