สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 3.21 ดอลลาร์ หรือ 4.42% ปิดที่ 69.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ดิ่งลง 3.41 ดอลลาร์ หรือ 4.43% ปิดที่ 73.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลง หลังจากนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเปิดเผยว่า มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางคนในพรรครีพับลิกันกล่าวว่า พวกเขาจะโหวตคัดค้านร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้ แม้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายแมคคาร์ธีได้บรรลุข้อตกลงการขยายเพดานหนี้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วก็ตาม
ฟิล ไฟน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Price Futures Group กล่าวว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับร่างกฎหมายเพดานหนี้จะยังคงเป็นปัจจัยถ่วงตลาด จนกว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะโหวตร่างกฎหมายดังกล่าวในวันพุธที่ 31 พ.ค. ก่อนที่จะส่งต่อเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐ และหากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ ก็จะส่งต่อให้ปธน.ไบเดนลงนามเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
อย่างไรก็ดี กระบวนการผ่านกฎหมายดังกล่าวจะต้องเสร็จสิ้นก่อนเส้นตายวันที่ 5 มิ.ย. มิฉะนั้นสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียไม่สนับสนุนให้มีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมในการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 มิ.ย. เนื่องจากเมื่อเดือนที่แล้ว สมาชิกบางประเทศเพิ่งประกาศปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจ
ทั้งนี้ ในการประชุมเดือนเม.ย. ซาอุดีอาระเบียประกาศปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจจำนวน 500,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่โอเปกพลัสยืนยันตามมติในเดือนต.ค.2565 ในการปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปี 2566
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ค.ของจีนในวันนี้ รวมทั้งจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันพรุ่งนี้