โลกร้อน ฝุ่น มลพิษ ปัญหาที่ไม่ใช่แค่โลกป่วย แต่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสุขภาพของผู้คน ปตท. องค์กรในฐานะผู้นำพลังงานของไทย จึงมีความตั้งใจในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น
ด้วยแนวคิดที่มุ่งมั่น ภายใต้วิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต สร้างความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมผลักดันไทย สู่เป้าหมาย Net Zero Emissions ภายในปี 2050 ผ่านแผนการดำเนินงานธุรกิจ “Future Energy and Beyond”
กลุ่มธุรกิจ Future Energy ของปตท.
มุ่งสู่ธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต เดินหน้าผลักดันธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าของไทย
จัดตั้ง บริษัท อรุณ พลัส จำกัด เป็น EV Flagship ของกลุ่ม ปตท. โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศไทยในการผลักดันการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้า ผ่านการดำเนินงานของบริษัทลูก อย่าง
EVME PLUS มอบประสบการณ์การเช่ายานยนต์ไฟฟ้า ผ่าน Application EVme
On-ion (ออน-ไอออน) ให้บริการสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ศักยภาพนอกสถานีบริการ
Swap & Go ธุรกิจให้บริการสลับแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบไม่ต้องรอชาร์จ
กลุ่มธุรกิจ Beyond
สนับสนุนการขับเคลื่อนชีวิตของผู้คน นอกเหนือธุรกิจพลังงาน
ธุรกิจ Life science
โดยมี บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด เป็นหัวเรือใหญ่ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ทั้งธุรกิจยา เทคโนโลยีทางการแพทย์ และโภชนาการเพื่อสุขภาพ
ธุรกิจ Mobility & Lifestyle
เสริมสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจน้ำมันและการต่อยอดธุรกิจ
ธุรกิจโลจิสติกส์ และโครงสร้างพื้นฐาน
ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ครอบคลุมการขนส่งสินค้าแบบครบวงจร ทั้งทางบก น้ำ และอากาศ
ธุรกิจ AI, Robotics & Digitalization
ปตท. ได้ตั้ง บริษัท เมฆา วี จำกัด (Mekha V) ขึ้นมาเป็น Flagship ทางด้านปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล ที่พร้อมช่วยจัดการพลังงานผ่านเทคโนโลยี ทางออกสำหรับอนาคตที่ยั่งยืน
ธุรกิจค้าปลีก Non-oil
ธุรกิจ เคมีภัณฑ์มูลค่าสูง
โดยธุรกิจทั้งหมดนี้จะอยู่ในเป้าหมายการดำเนินงานใน 3 ด้านของปตท. คือ
Business Growth ปรับพอร์ตการลงทุน เน้นธุรกิจคาร์บอนต่ำ
New Growth ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและยานยนต์ไฟฟ้า ต้องสร้างกำไรในปี 2573 มากกว่า 30%
Clean Growth ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเทียบจากปี 2563 ลง 15% ภายในปี 2573
ตลอดระยะเวลา 45 ปี ปตท. จะยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนประเทศไทย