นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะครบเทอม 4 ปีในวันที่ 12 พฤษภาคม 2567
ดังนั้น จึงต้องได้มีการประกาศสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. คนที่ 11
ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อรับการคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
โดยให้ผู้ที่สนใจให้ยื่นสมัครตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2566 -3 มกราคม 2567 ระหว่างเวลา 08.30 – 17.30 น. (เว้นวันหยุดราชการ)
อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบของ"ฐานเศรษฐกิจ"พบว่า ผู้ที่สมัครเข้ารับการคัดเลือกประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการการผู้จัดการใหญ่ ปตท. ล่าสุด ประกอบด้วย
- นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC
- นายบุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
- ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
- นายพงษ์พันธุ์ อมรวิวัฒน์ รองกรรมการผู้ จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
สำหรับคุณสมบัติและเงื่อนไขของผู้สมัคร ประกอบด้วย
- มีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ในวันยื่นใบสมัคร
- มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 8 ตรี และจัตวา แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- ไม่มีลักษณะที่แสดงถึงการขาดความเหมาะสมที่จะได้รับความไว้วางใจให้บริหารจัดการกิจการที่มีมหาชนเป็นผู้ถือหุ้นตามมาตรา 89/3 และ 89/6 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 3/2560 ลงวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560 เรื่องการกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารบริษัท
- มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ รวมถึงมีวิสัยทัศน์ทางด้านธุรกิจพลังงาน ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง มีความรอบรู้และประสบการณ์ในการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ ทั้งนี้ ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารภาคเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรนั้น ที่มีรายได้ (TURNOVER) ไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปี โดยมีงบการเงินและโครงสร้างองค์กร หรือรายงานประจำปี (ANNUAL REPORT) ในขณะดำรงตำแหน่งมาแสดงด้วย หรือ ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐระดับกรมหรือเทียบเท่าขึ้นไปต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรนั้น
- มีความรอบรู้ ความสามารถสูงในการตัดสินใจ การสั่งการ การแก้ปัญหา และนำองค์กรไปในทิศทางและเป้าหมายตามนโยบาย ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท
- มีความเป็นผู้นำ มีคุณธรรมและจริยธรรม ยึดมั่นในหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีมนุษย์สัมพันธ์ดี สามารถติดต่อประสานงานได้เป็นอย่างดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ
คุณวุฒิทางการศึกษา
- สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี
เงื่อนไขการจ้าง
- มีวาระการดำรงตำแหน่งไม่เกิน 4 ปี หรือจนถึงวันที่อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ แล้วแต่วาระใดจะถึงก่อน
อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า นายคงกระพัน มีโอกาสได้รับการคัดเลือกมากที่สุด
แต่ที่น่าจับตาคือ ม.ล.ปีกทอง ที่หลายฝ่ายให้การสนับสนุนเช่นกัน