การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว ควบคู่กับมาตรการประหยัดพลังงาน 5ป. จะสามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 45% ช่วยเปลี่ยนฤดูร้อนให้กลายเป็นฤดูเซฟ ทั้งเซฟเงินในกระเป๋า เซฟสิ่งแวดล้อม และเซฟพลังงานของประเทศ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย
แม้ไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนเพียงไม่นาน แต่บางพื้นที่มีอุณหภูมิร้อนแรงแตะ 45 องศาเซลเซียส ทำให้หลายคนเตรียมปาดเหงื่อทั้งจากอากาศที่ร้อนจัด และบิลค่าไฟฟ้าที่คาดว่าจะสูงขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน ทั้งที่อัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วยยังคงเท่าเดิม เพราะอากาศที่ร้อนจัดทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าโดยเฉพาะแอร์ พัดลม และตู้เย็น ต้องทำงานหนักมากกว่าปกติเพื่อเอาชนะความร้อนของอากาศภายนอกจึงกินไฟมากขึ้น
ประกอบกับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าที่มากขึ้นเพื่อคลายความร้อน อาทิ การเปิดแอร์ที่ยาวนานขึ้น การเปิดพัดลมเกือบตลอดทั้งวัน การเปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยครั้ง หรือการใช้น้ำมากขึ้นก็ทำให้ปั๊มน้ำทำงานหนักขึ้นเช่นกัน โดยผลการทดลองเปิดแอร์ที่อุณหภูมิภายนอก 35 และ 41 องศาเซลเซียส พบว่า หากอากาศร้อนขึ้น 6 องศาเซลเซียส จะทำให้หน่วยการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นถึง 14% นั่นหมายถึงค่าไฟฟ้าจะพุ่งขึ้นตามไปด้วย
การเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงควบคู่กับการประหยัดพลังงานจึงเป็นตัวช่วยสำคัญให้คนไทยประหยัดไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้นในหน้าร้อนนี้
มากกว่าการประหยัดไฟ รักษ์โลกมากกว่าเดิม
"ฉลากเบอร์ 5 แบบใหม่ 5 ดาว" เป็นเครื่องมือในการยกระดับการประหยัดพลังงานให้เข้มข้นมากขึ้น และเป็นตัวช่วยในการเลือกอุปกรณ์ไฟฟ้า รวมทั้งรักษ์โลกมากกว่าเดิม โดยการเพิ่มเกณฑ์ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้าให้มีความละเอียดมากขึ้นจากเดิม 1-3 ดาว เป็น 1-5 ดาว ทำให้ประชาชนสามารถเลือกในการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง ยิ่งดาวมาก ยิ่งประหยัดไฟมาก
นอกจากนี้ ฉลากรูปแบบใหม่ยังส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่รักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยการเพิ่มสัญลักษณ์ที่แสดงปริมาณการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ตลอดช่วงการใช้งาน สัญลักษณ์ที่แสดงถึงกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ QR Code เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากกว่าที่ระบุไว้บนผลิตภัณฑ์ อาทิ ข้อมูลการใช้งาน การติดตั้งและบำรุงรักษา ช่องทางบริการหลังการขาย
อีกทั้งการที่ประเทศไทยปรับรูปแบบของฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ให้มีเกณฑ์ประสิทธิภาพเพิ่มเป็น 1 – 5 ดาว ยังมีความสอดคล้องกับฉลากประหยัดพลังงานของประเทศอื่นๆ อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่มีการแบ่งเกณฑ์ประสิทธิภาพบนฉลากประหยัดพลังงานเป็น 5 ระดับเช่นเดียวกัน
เคล็ดลับ '5 ป.' ช่วยเซฟเงินในกระเป๋า
นอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับง่ายๆ ที่ทำแล้วช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ทันทีในช่วงหน้าร้อนนี้ด้วยเทคนิค 5 ป. คือ...
1. ปิด คือ ปิดไฟดวงที่ไม่ใช้งาน แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็สามารถช่วยประหยัดไฟได้มาก
2. ปรับ คือ ปรับแอร์ที่อุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส เพราะการปรับอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียสจะช่วยลดค่าไฟฟ้าประมาณ 10% นอกจากนี้การปิดเครื่องปรับอากาศเร็วขึ้น 1 ชั่วโมงก่อนออกจากห้อง สามารถช่วยประหยัดไฟฟ้าได้เช่นกัน
3. ปลด คือ ปลดปลั๊กทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน เพราะการเสียบปลั๊กทิ้งไว้แม้ปิดสวิตซ์แล้วก็ยังคงมีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ ทำให้กินไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าเสื่อมคุณภาพเร็ว และเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
4. เปลี่ยน คือ เปลี่ยนมาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว ยิ่งดาวมาก ยิ่งประหยัดไฟมาก และเลือกใช้หลอด LED ที่ให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไฟทั่วไป แต่กินไฟน้อยกว่า
5. ปลูก คือ ปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อช่วยสร้างร่มเงา ลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน และลดการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้า
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและลดการใช้พลังงานอย่างเหมาะสมเพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว ควบคู่กับมาตรการประหยัดพลังงาน 5ป. จะสามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 45% ช่วยเปลี่ยนฤดูร้อนให้กลายเป็นฤดูเซฟ ทั้งเซฟเงินในกระเป๋า เซฟสิ่งแวดล้อม และเซฟพลังงานของประเทศ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย