"TPIPP" ปักหมุดเปลี่ยนเป็นโรงไฟฟ้าสีเขียว 100% ในปี 69

01 เม.ย. 2567 | 09:04 น.
อัปเดตล่าสุด :01 เม.ย. 2567 | 09:04 น.

"TPIPP" ปักหมุดเปลี่ยนเป็นโรงไฟฟ้าสีเขียว 100% ในปี 69 พร้อมวางวิสัยทัศน์การเป็น Waste to Energy เผยบริษัทมี 2 ธุรกิจหลัก ธุรกิจผลิตไฟฟ้า มีสัดส่วนรายได้ 96% และธุรกิจสถานีบริการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มีสัดส่วนรายได้ 4% 

นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP เปิดเผยในงานสัมมนา Sustainable Daily Talk Action for Change : ทำเดี๋ยวนี้! เพื่อการเปลี่ยนแปลง ในหัวข้อ ESG Action for Change : พลังงานสีเขียว เพื่อความยั่งยืน จัดโดย หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และเดลินิวส์ ออนไลน์ ว่า TPIPP ตั้งเป้าหมายมุ่งสู่ Green Power Plant-Coal Free หรือจะเป็นโรงไฟฟ้าสีเขียว 100% ตั้งแต่ปี 69 เป็นต้นไป 

อีกทั้งยังวางวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรม Waste to Energy ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุด และต้องเป็น  Net Zero Company ด้วย ESG Principle และพยายามสร้าง Ecosystem ภายในบริษัทให้กลายเป็น Zero-Waste และจะใช้ BCG Economy เพื่อให้กลายเป็น Sustainable หรือ เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจ กำไร เป็นต้น 

"ไทยตั้งเป้าใน COP27 ว่าในปี 68 จะเริ่มเปลี่ยนผ่านจากโรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันไปสู่พลังงานสะอาดมากขึ้น และในปี 83 ตั้งเป้าสัดส่วน 68% จะต้องเป็นพลังงานสะอาด หรือพลังงานหมุนเวียน และในปี 93 ตั้งเป้าหมาย 74% ของพลังงานไฟฟ้าจะต้องเปลี่ยนเป็นพลังงานสะอาด และจะเริ่มยกเลิกโรงไฟฟ้าถ่านหินด้วย และเดินหน้าสู่การเป็น Net-Zero ภายในปี 2608" 
 

นายภัคพล กล่าวอีกว่า บริษัทมีธุรกิจหลัก 2 บริษัท คือ ธุรกิจผลิตไฟฟ้า คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 96% และ2.ธุรกิจสถานีบริการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 4% 

"TPIPP" ปักหมุดเปลี่ยนเป็นโรงไฟฟ้าสีเขียว 100% ในปี 69

โดยปัจจุบันมีสถานีบริการทั้งหมด 12 สถานี ประกอบด้วยสถานีบริการน้ำมัน 8 สถานี สถานีก๊าซ 1 สถานี และอีก 3 สถานีเป็นทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งบริษัทยืนยันว่า ไม่มีการขยายธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นเพียงธุรกิจเสริมเท่านั้น โดยการเติบโตหลักจะยังอยู่ที่ธุรกิจผลิตไฟฟ้า  

สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้านั้น ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตรวม 440 เมกะวัตต์ โดยมีพลังงานความร้อนทิ้ง 40 เมกะวัตต์ พลังงานจากขยะ 180 เมกะวัตต์ และพลังงานจากถ่านหิน 220 เมกะวัตต์ โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะทำให้พลังงานจากถ่านหินเป็น 0 เมกะวัตต์ ในปี 69 ซึ่งในปี 69 คาดจะมีกำลังการผลิตรวม 563 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยพลังงานความร้อนทิ้ง 40 เมกะวัตต์ พลังงานหมุนเวียน 420 เมกะวัตต์ และ 103 เมกะวัตต์จะเป็นพลังงานโซลาร์และลม 

ด้านการเปลี่ยนผ่านจากถ่านหินเป็นขยะ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการโครงการ Solar Farms ที่สระบุรี โดยคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ในเฟส 1.1 จำนวน 8 เมกะวัตต์ คาดจะ COD ได้ ประมาณพ.ค. ปีนี้ 
 

ส่วนการเปลี่ยนถ่านหินเป็นขยะ ประกอบด้วย 6 เฟส โดยปัจจุบันเฟสที่ 1-3 ดำเนินการแล้วเสร็จ 40% เริ่ม COD แล้วตั้งแต่เม.ย.-พ.ค.66 ล่าสุดอยู่ระหว่างเฟส 4 ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ ส.ค.ปีนี้ 

ขณะที่เฟส 5 คาด COD ปลายปีนี้ และเฟส 6 คาดว่าจะ COD ต้นปี 2025 ซึ่งจะเป็นไปตามเป้าหมายที่มุ่งสู่ Green Power Plant-Coal Free หรือ จะเป็นโรงไฟฟ้าสีเขียว 100% ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป 

"โอกาสทางธุรกิจที่รัฐบาลสามารถทำได้ คือ Carbon Tax หรือ ภาษีคาร์บอน ซึ่งอยู่ระหว่างการร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว โดยจะทำให้การเทรดคาร์บอนเครดิต การลดคาร์บอนของผู้ประกอบการมีมากขึ้น"