“พลังงาน” แจงแผน PDP ใหม่เม็ดเงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้ารวมกว่า 1 ล้านล.

21 มิ.ย. 2567 | 05:05 น.
อัปเดตล่าสุด :21 มิ.ย. 2567 | 05:06 น.

“พลังงาน” แจงแผน PDP ใหม่เม็ดเงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้ารวมกว่า 1 ล้านล. ชี้เน้นให้เกิดการเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าที่สามารถรักษาระดับราคาค่าไฟฟ้าที่มีความเหมาะสมและมีเสถียรภาพในระยะยาว

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่นักลงทุนกังวลต่อร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศฉบับใหม่ (PDP 2024) ว่าจะลดความสำคัญของโรงไฟฟ้าหลักฟอสซิลนั้น ในความเป็นจริงแล้ว ภาพรวมกิจกรรมการลงทุนในแผน PDP กระทรวงพลังงานเน้นให้เกิดการเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าที่สามารถรักษาระดับราคาค่าไฟฟ้าที่มีความเหมาะสมและมีเสถียรภาพในระยะยาว เนื่องจากค่าไฟฟ้าเป็นปัจจัยขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ

ทั้งนี้ แม้ว่าระดับค่าไฟฟ้าไม่ได้สูงขึ้น แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้กิจกรรมการลงทุนในภาคไฟฟ้าลดลงแต่อย่างใด เพราะมีการเพิ่มสัดส่วนการก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมีมูลค่าสูงกว่ากิจกรรมการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าฟอสซิล 

ซึ่งมีข้อสนับสนุนจากข้อมูลการวิเคราะห์การลงทุนจากหน่วยงานด้านพลังงานในต่างประเทศที่ชี้ให้เห็นว่าการลงทุนจากพลังงานหมุนเวียนจะทำให้เกิดเม็ดเงินลงทุนสูงกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล 
 

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาตามแผน PDP ฉบับใหม่ ยังคงมีกิจกรรมการลงทุนในภาคไฟฟ้าตามแผน PDP อย่างต่อเนื่อง จากการลงทุนของโรงไฟฟ้าที่มีข้อผูกพันไว้แล้วและที่จะเปิดรับเพิ่มเติมตามแผนในช่วงก่อนปีพ.ศ. 2573 มากกว่า 650,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 

“พลังงาน” แจงแผน PDP ใหม่เม็ดเงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้ารวมกว่า 1 ล้านล.

พลังงานหมุนเวียนประมาณ 13,300 MW คิดเป็นมูลค่าลงทุนประมาณ 525,000 ล้านบาท และการลงทุนโรงไฟฟ้าฟอสซิลประมาณ 5,300 MW คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 125,000 ล้านบาท

รวมทั้งการเข้ามาของ​ RE​ ที่มากขึ้นจะ​นำไปสู่โครงสร้างระบบไฟฟ้า​แบบกระจายศูนย์และธุรกิจไฟฟ้ารูปแบบใหม่​ที่จะต้องควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน​ให้สามารถรองรับได้​ ซึ่งก็จะมีอีกแผนคือแผนสมาร์ท​กริดที่จะมารองรับการเปลี่ยนผ่านนี้​ โดยมีแผนงานที่คิดเป็นเงินลงทุนตลิดทั้งแผนอีกประมาณ​ กว่า 400,000 ล้านบาท​

ซึ่งแผนดังกล่าวยังได้ตอบโจทย์เรื่องความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศ การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และลดก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นไปตามทิศทางของโลกที่สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ตามที่ประเทศไทยได้ประกาศเป้าหมายการลดคาร์บอนในระหว่างการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP26)