นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำไฟฟ้าสีเขียว หรือ ยูทีจี (UTG) ว่า ขณะนี้ค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ซื้อที่ไม่เจาะจงโรงไฟฟ้า (ยูทีจี1) จะเป็นราคาค่าไฟฟ้าปกติ บวกค่า พรีเมียม 0.0594 บาทต่อหน่วย
โดยไฟฟ้ามาจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประมาณ 1,300-3,500 กิกะวัตต์ต่อปี สัญญาปีต่อปี มีความชัดเจนแล้ว
และรอจัดทำค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ซื้อที่เจาะจงโรงไฟฟ้า (ยูทีจี 2) แบ่งเป็น 2 ราคาตามโรงไฟฟ้าที่เข้าระบบ กลุ่ม A ราคา 4.5622 บาทต่อหน่วย และกลุ่ม B ราคา 4.5475 บาทต่อหน่วย สัญญา 10 ปี โดยไฟฟ้ามาจากโครงการรับซื้อไฟฟ้าสีเขียว 4,852.26 เมกะวัตต์ ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากศาลปกครองหลังมีผู้ร้องกลุ่มไฟฟ้าจากพลังงานลม
อย่างไรก็ตามพบว่านักลงทุนทั่วโลกและนักลงทุนไทยต่างรอความชัดเจน โดยเฉพาะยูทีจี 2 ทั้งกลุ่มนักลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ อย่างแอมะซอน กูเกิ้ล ไมโครซอฟต์ และกลุ่มเอกชนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และอื่นๆ
สะท้อนว่ากลไกการค้าโลกกำลังมุ่งไปสู่พลังงานสะอาด ซึ่งกกพ.จะเร่งดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกนักลงทุน เป็นอีกกำลังสำคัญในการกระตุ้นการลงทุนและเศรษฐกิจไทย
นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องการความชัดเจนจากรัฐบาล ทั้งมาตรการส่งเสริมให้บริษัทเอกชนซื้อขายไฟฟ้าพลังงานสะอาด และพลังงานทดแทนได้โดยตรงจากผู้ผลิตไฟฟ้า(Direct PPA) หรือ ไดเรกต์ พีพีเอ
หากอนุมัติเดินหน้ากกพ.ก็พร้อมสนับสนุนและดำเนินการ 2 ส่วนหลัก คือ Third Party Access คือเปิดให้มีการซื้อขายไฟผ่านโครงข่ายของรัฐ และการจัดทำอัตราค่าบริการสายส่งไฟฟ้า (Wheeling Charge) ซึ่งทั้งหมดต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและความมั่นคงระบบไฟฟ้าของไทย
นายพูลพัฒน์ กล่าวต่อไปอีกถึงแนวโน้มค่าไฟงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2567 ว่า ทิศทางราคาค่าไฟงวดปลายปีต้องติดตามสถานการณ์ต้นทุนราคาพลังงานอีกครั้ง โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี (LNG) ในตลาดโลก ปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติของไทย
รวมทั้งปัจจัยอื่นอย่างค่าเงินบาท ซึ่งจะส่งผลต่อการคำนวณค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) จนสะท้อนต่อราคาค่าไฟที่ประชาชนต้องจ่าย จากงวดปัจจุบัน(พ.ค.-ส.ค. 67) อยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย โดยกกพ.จะเร่งรวบรวมข้อมูลต้นทุนทุกด้านเพื่อคำนวณค่าเอฟทีและประกาศรับฟังความคิดเห็นประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้
"ขณะนี้ราคาแอลเอ็นจีอยู่ระดับซอฟต์ คือ ประมาณ 12 เหรียญสหรัฐต่อล้านลูกบาศก์ฟุต ส่วนจะสามารถตรึงให้อยู่ระดับ 4.18 บาทต่อหน่วย หรือลดลงกว่านี้หรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ ขอดูองค์ประกอบจากทุกส่วนก่อน"
ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนต้องการให้ค่าไฟลดลงกว่านี้ ต้องการให้มองว่าไทยมีความมั่นคงไฟฟ้า เป็นไฟฟ้าคุณภาพ และตอนนี้เทรนด์ลงทุนทั่วโลกไม่ได้มองว่าค่าไฟต้องถูกหรือแพง แต่ควรมาจากการผลิตที่สะอาด เป็นไฟสะอาด เพื่อแข่งขันในตลาดโลกได้