"กบน." เพิ่มเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซล 2.02 บาท ตรึงราคาไม่ให้เกิน 33 บ.

25 มิ.ย. 2567 | 01:03 น.
อัปเดตล่าสุด :25 มิ.ย. 2567 | 01:03 น.

"กบน." เพิ่มเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซล 2.02 บาท ตรึงราคาไม่ให้เกิน 33 บ. หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น ด้าน กบน. ดันราคาขึ้นอีกไม่ได้เหตุเต็มเพดานตามที่มติ ครม. อนุมัติ

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.)ได้พิจารณาเพิ่มเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลขึ้นอีกครั้งเป็น 2.02 บาทต่อลิตรจากเดิมชดเชยอยู่ 1.60 บาทต่อลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น

อีกทั้ง กบน.เองก็ไม่สามารถปรับขึ้นราคาดีเซลได้อีก เนื่องจากเต็มเพดานที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดให้ปรับขึ้นได้ไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ซึ่งปัจจุบันราคาดีเซลจำหน่ายอยู่ที่ 32.94 บาทต่อลิตร 

ทั้งนี้ จึงส่งผลทำให้ กบน.ต้องอนุมัติใช้เงินกองทุนน้ำมันชดเชยราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นแทนการเพิ่มเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลดังกล่าวส่งผลให้กองทุนน้ำมันต้องประสบปัญหาเงินไหลออก 178.28 ล้านบาทต่อวัน 
 

ซึ่งมากกว่าเงินไหลเข้า 158.47 ล้านบาทต่อวัน ทำให้เงินกองทุนน้ำมันติดลบวันละ 19.81 ล้านบาท หรือ 594 ล้านบาทต่อเดือน

"กบน." เพิ่มเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซล 2.02 บาท ตรึงราคาไม่ให้เกิน 33 บ.

ส่วนสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุดนั้น จากการตรวจสอบของ "ฐานเศรษฐกิจ" ไปยังข้อมูลที่เผยแพร่โดยสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) วันที่ 23 มิ.ย. 67 พบว่า ติดลบ 110,743 ล้านบาท แบ่งเป็น 

  • บัญชีน้ำมันติดลบ 63,121 ล้านบาท 
  • บัญชีก๊าซหุงต้ม ติดลบ47,622ล้านบาท

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา กบน.พยายามปรับขึ้นราคาดีเซลจาก 29.94 บาทต่อลิตร นับตั้งแต่เดือนเม.ย.เป็น 32.94 บาทต่อลิตร หรือเท่ากับปรับขึ้นทั้งหมด 6 ครั้งเป็นเงิน 3 บาทต่อลิตร โดย ครม.อนุญาตให้ปรับขึ้นราคาดีเซลได้ไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ที่เป็นมาตรการระยะสั้นระหว่างวันที่ 20 เม.ย.- 31 ก.ค. 67 
 

สำหรับการปรับขึ้นราคาดีเซลดังกล่าว เพื่อช่วยลดภาระกองทุนฯในการชดเชยราคาดีเซลและทำให้กองทุนน้ำมันมีเงินไหลเข้าจนบัญชีเป็นบวกในแต่ละวัน เนื่องจากต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการชำระหนี้เงินต้นก้อนแรกจำนวน 30,000 ล้านบาท ในเดือน พ.ย. 67 นี้ จากหนี้ที่กู้ยืมทั้งหมด 105,333 ล้านบาท 

โดย กบน.ประเมินว่า จะทำให้กองทุนน้ำมันมีรายรับเป็นบวกในแต่ละวันให้ได้ในเดือน ต.ค.หรืออีก 4 เดือนข้างหน้า เพื่อให้ทันต่อการชำระหนี้เงินต้น