นายวีรพัฒน์เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบง. มีมติให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นก๊าซ LPG ที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีกรอบเป้าหมายเพื่อให้ราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มครัวเรือนอยู่ที่ประมาณ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม
ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 และให้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) พิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป หลังจากที่ได้มีการพิจารณาถึงสถานการณ์ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ของตลาดโลกรวมถึงสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
อย่างไรก็ดี ตามที่ราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินในประเทศปรับตัวสูงขึ้น มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567 จึงมีความจำเป็นในการพิจารณามาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาน้ำมันสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ซึ่งเป็นประชาชนกลุ่มเปราะบางที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือในช่วงที่ระดับราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูง เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านราคาน้ำมัน ลดภาระค่าครองชีพ ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มศักยภาพให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
กบง.จึงได้มีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานหารือกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอเรื่องขออนุมัติหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)
โดยรูปแบบจะให้สิทธิช่วยเหลือค่าน้ำมัน 120 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 3เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567 ซึ่งกระทรวงพลังงานจะดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณารายละเอียดมาตรการฯ ตามขั้นตอน ข้อกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาสัมพันธ์รายละเอียดความคืบหน้าเพื่อให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทราบโดยทั่วกัน