น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ ร่างแผนพัฒนาด้าน "สับปะรด" ปี 2566 – 2570 ตามที่คณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติเสนอ โดยให้ประเทศไทยศูนย์กลางระดับโลกในการผลิต แปรรูป และสร้างคุณค่ามูลค่าทางเศรษฐกิจจากสับปะรดอย่างยั่งยืน
ตามแผนพัฒนาด้านสับปะรด มีแนวทางขับเคลื่อนภายใต้ 5 เรื่องสำคัญ ดังนี้
1.สนับสนุนและพัฒนาสับปะรดให้สามารถสร้างคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่อุปทาน
2.ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาระบบการวิจัยและสายพันธุ์ การบริหารจัดการแปลง การบริหารจัดการดินและน้ำ การบริหารโซนนิ่งการเกษตร การจัดการระบบโลจิสติกส์ และการบริหารผลผลิตสับปะรด ให้มีความสมดุลทั้งอุปสงค์ อุปทานของระบบเศรษฐกิจ การเกษตรมูลค่าสูงและการบริโภค
3.เสริมสร้างขีดความสามารถและการบริหารจัดการภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อการเป็นศูนย์กลางการผลิต การแปรรูป และการตลาด
4.ส่งเสริม พัฒนาองค์ความรู้ คุณภาพชีวิตเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรให้เข้มแข็ง มีความมั่นคงในอาชีพ สามารถบริหารจัดการการเกษตรที่ยั่งยืนด้วยตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
5.ส่งเสริมการสร้างสรรค์วิชาการ เทคโนโลยี และนวัตกรรมการผลิตการแปรรูปและการตลาด
สำหรับตัวชี้วัดของร่างแผนฉบับนี้ ประกอบด้วย
1.พื้นที่ปลูกที่ได้รับการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตจากนโยบายภาครัฐ จำนวน 1,000 ไร่ต่อปี
2.ผลิตภาพการผลิตในอุตสาหกรรมแปรรูปสับปะรด เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% ต่อปี
3.มูลค่าการส่งออกสับปะรดและผลิตภัณฑ์สับปะรดเพิ่มขึ้น 1.5% ต่อปี (จากปี 2565 จำนวน 23,700 ล้านบาท)
4.รายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดเพิ่มขึ้น 5% ต่อปี (จากปี 2565 จำนวน 330,700 บาท)
สถานการณ์สับปะรดโรงงานล่าสุด
สถานการณ์สับปะรดโรงงานในปี 2566 คาดว่า มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตรวม 1.65 ล้านตัน เนื้อที่เพาะปลูก 430,958 ไร่ ซึ่งลดลงจากปี 2565 เนื่องจากเกษตรกรได้ลดพื้นที่เพาะปลูกลง เพราะปัญหาต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาปุยและสารเคมีและปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
สำหรับผลผลิตสับปะรดในปี 2566 นี้ กว่า 72% ของผลผลิตทั้งหมด จะถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ และผลผลิต 28% ใช้เพื่อการบริโภคภายในประเทศ ข้อมูลการส่งออกสับปะรดปี 2565 ไทยส่งออกสับปะรดในรูปแบบผลิตภัณฑ์รวม 512,574 ตัน มูลค่า 23,869 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ประมาณ 12.14%
โดยประเทศที่ไทยส่งออกสับปะรดกระป๋องมากที่สุด ได้แก่ สหรัฐอมริกา สหพันธรัฐรัสเซีย และสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ส่วนราคาที่เกษตรกรขายได้ในปี 2566 ช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ แบ่งเป็น
1.สับปะรดที่ส่งเข้าโรงงาน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 7.14 บาท (เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่อยู่ที่กิโลกรัมละ 6.50 บาท)
2.สับปะรดที่ใช้บริโภค เฉลี่ยกิโลกรัมละ 11.14 บาท (เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่อยู่ที่กิโลกรัมละ 10.06 บาท)