"ไบโอพลาสติกไทย" ขึ้นแท่นการผลิตสูงสุดอันดับ 2 ของโลก 

06 มี.ค. 2566 | 03:55 น.
อัปเดตล่าสุด :06 มี.ค. 2566 | 04:12 น.

อุตสาหกรรมการผลิต ไบโอพลาสติกไทย ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 2 ของโลก รัฐบาลสนับสนุนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบันเทรนด์การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ได้กลายมาเป็นกระแสสำคัญของการใช้ชีวิต รวมไปถึงการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ มากมาย โดยตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นคือ การผลิตพลาสติกชีวภาพ หรือ ไบโอพลาสติก (Bioplastic) ที่ผ่านมาในการทำงานของทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะผู้มีส่วนในการผลิตไบโอพลาสติกนั้น นับเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และยังช่วยแก้ปัญหาพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ไทยผลิตไบโอพลาสติกอันดับ 2 ของโลก

ล่าสุด นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความยินดีว่าประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพ รายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ต่อจากสหรัฐฯ เนื่องจากมีวัตถุดิบ อาทิ อ้อย และมันสำปะหลัง ภายในประเทศจำนวนมากเพื่อการผลิต 

ด้วยศักยภาพกำลังการผลิตของประเทศอยู่ที่ 95,000 ตันต่อปี และมีแผนที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตอีก 75,000 ตันต่อปี โดยกว่า 90% ของผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพเป็นไปเพื่อการส่งออก ส่วนที่เหลือจำหน่ายภายในประเทศ ซึ่งการผลิตพลาสติกชีวภาพไม่เพียงแต่เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรของไทยเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเป็นทางเลือกหนึ่งในการจัดการกับปัญหาที่เกิดจากพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

เศรษฐกิจชีวภาพ แนวทางหนึ่งบน BCG

ตามแผนของรัฐบาล ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศให้ BCG เป็นวาระแห่งชาติ โดยมีเศรษฐกิจชีวภาพเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ หัวใจของเศรษฐกิจชีวภาพ นั่นคือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยเน้นการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน เข้ามาเป็นวัตถุดิบ ทั้งเพื่อการผลิตพลังงาน การผลิตอาหาร รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มอื่น ๆ

ขณะเดียวกัน โมเดลเศรษฐกิจ BCG ยังสนับสนุนให้ผู้ผลิตนำเอาเทคนิคต่าง ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ ก่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด หรือไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

นายอนุชา ระบุว่า รัฐบาลชื่นชมผู้ประกอบการไทยที่พัฒนาศักยภาพ และฝีมือจนทัดเทียมนานาประเทศ ขณะเดียวกันเป็นอุตสาหกรรมที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย และขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ให้การสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล นายกฯ เชื่อมั่นว่ารูปแบบทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมจะทำให้เกิดความสมดุล ยั่งยืนในโลก

อย่างไรก็ตามรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนเศรษฐกิจไทยที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน พร้อมเพิ่มศักยภาพ เพื่อช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในเวทีระดับสากลต่อไป