CBAM อบก.แนะผู้ประกอบการเตรียมฐานข้อมูล carbon emission

30 มี.ค. 2566 | 10:47 น.
อัปเดตล่าสุด :30 มี.ค. 2566 | 10:48 น.

เมื่อ EU เตรียมใช้ มาตรการ CBAM วันที่ 1 ต.ค. 2566 เป็นต้นไป ทาง อบก.แนะนำผู้ประกอบการเตรียมฐานข้อมูล carbon emission

มาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism CBAM)  โดยที่ผ่านมา อียูได้ข้อสรุปมาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (CBAM) ขยายเพิ่มเป็น 7 กลุ่มสินค้า เตรียมบังคับใช้มาตรการ 1 ต.ค. 66 ก่อนเริ่มใช้เต็มรูปแบบ 1 ม.ค. 69 ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต ปล่อยคาร์บอนต่ำเพื่อลดภาระการซื้อใบรับรอง CBAM ในอนาคต

ดังนั้นเวลานี้จึงถือเป็นช่วงเวลาแห่งการนับถอยหลัง CBAM ในเวทีสัมมนา Go Green 2023 : Business Goal to the Next Era  โดย กรุงเทพธุรกิจ “รองเพชร บุญช่วยดี” รองผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) นับถอยหลังมาตรการ CBAM ระบุว่า ในฐานะ อบก. มุมมองของการเก็บภาษีเป็นมาตรการที่ปรับสินค้านำเข้าโดยเปรียบเทียบกับ carbon emission ของสินค้าประเภทเดียวกับที่อยู่ในยุโรป  สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมคือ ฐานข้อมูล carbon emission ต้องจัดการ Supply Chain (ห่วงโซ่อุปทาน) เพราะ carbon emission  เกิดตั้งแต่แหล่งผลิต จนถึงขั้นตอนสุดท้ายของผลิตภัณฑ์

ล่าสุดพบว่า อียูยังไม่ได้ออกรูปแบบหรือไกด์ไลน์ออกมาที่ชัดเจน ว่าจะตรวจวัดด้วยมาตรฐานไหน รวมทั้งการตรวจสอบที่ต้องมี Third Party หมายความว่า มี 2 มาตรฐาน คือ จะตรวจวัดอย่างไร และจะสร้างการตรวจสอบที่สอดคล้องกับมาตรฐานของอียูได้อย่างไร  

ทั้งนี้ ระบบการวัด Metrology ทางอียูเป็นผู้กำหนด แต่ประเทศไทยไม่ได้นิ่งเฉย แต่การเตรียมฐานข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถทำได้ในระยะเวลารวดเร็ว อบก.จึงมีภารกิจร่วมกับทาง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมทั้งสำนักงานอีอีซี

“เรารอแบบตั้งรับ เตรียมข้อมูลจากสินค้าหลายๆ ประเภท อบก.ต้องเข้าไปมอนิเตอร์หรือทำการตรวจสอบความถูกต้องว่ามีการปล่อยมลพิษเท่าไหร่ มาจากไหน สินค้าประเภท ซีเมนต์ เหล็ก ปิโตรเคมี คอนสตรักชั่น ก็ได้เริ่มไปแล้ว พอวัดได้บางอย่าง” รองผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) กล่าว 

มาตรการ CBAM คืออะไร

  • ส่วนหนึ่งในมาตรการ Fit For 55 ภายใต้นโยบาย the European Green deal มีเป้าหมายให้สหภาพยุโรป (EU) เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิอย่างน้อยร้อยละ 55 ในปี ค.ศ. 2030 เมื่อเทียบกับปริมาณก๊าซเรือนกระจกในปี ค.ศ. 1990 และลดลงเหลือศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2050
  • มาตรการ CBAM เพื่อสร้างความเท่าเทียมต้นทุนราคาคาร์บอนระหว่างสินค้าภายใน EU ที่มีการบังคับใช้ระบบการซื้อขายใบอนุญาตปล่อยก๊าซเรือนกระจก (EU’s Emission Trading System : EU ETS) กับสินค้าที่ผลิตภายนอก EU ผ่านการปรับราคาคาร์บอน เพื่อเร่งให้ประเทศคู่ค้าของ EU ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง
  • 13 ธันวาคม 2565 สมาชิกรัฐสภายุโรป บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นบังคับใช้มาตรการ CBAM เริ่มใช้กับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป
  • คณะกรรมาธิการยุโรป เสนอร่างกฎหมาย CBAM ในเดือนกรกฎาคม 2564 และได้รับการปรับปรุงโดยรัฐสภายุโรป เมื่อ 22 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา
  •  19 ธันวาคม 2565 รัฐสภายุโรป และรัฐบาลของประเทศสมาชิก EU บรรลุข้อตกลงลดการบังคับใช้ระบบ EU ETS ให้มีบทบาทน้อยลง ให้สอดคล้องกับการเริ่มบังคับการเก็บค่าธรรมเนียมคาร์บอนจาก มาตรการ CBAM ในปี 2569 จนสิ้นสุดบทบาทของ EU ETS เพื่อบังคับใช้มาตรการ CBAM อย่างเต็มรูปแบบในปี 2577