"พลังงาน" รุกปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดมุ่งความเป็นกลางทางคาร์บอน

30 ก.ค. 2566 | 08:29 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ก.ค. 2566 | 08:30 น.

"พลังงาน" รุกปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดมุ่งความเป็นกลางทางคาร์บอน เผยอยู่ระหว่างจัดทำแผนพลังงานชาติ เดินหน้าร่วมมือสมาคมยานยนต์ไฟฟ้า อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จัด ASEAN Sustainable Energy Week และ Electric Vehicle Asia 2023

นายวรนล จันทร์ศิริ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านยุทธศาสตร์พลังงาน สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้ดำเนินการร่วมกับ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้า และ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผลักดันการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายใต้งานASEAN Sustainable Energy Week และ Electric Vehicle Asia 2023

ทั้งนี้ งานดังกล่าวเป็นมหกรรมเทคโนโลยีและการประชุมนานาชาติด้านพลังงานทดแทน สิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV)

"การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นปัญหาหลักที่ส่งผลกระทบต่อทุกภูมิภาคทั่วโลก การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก ภาวะโลกร้อน ภัยแล้ง อุทกภัย ล้วนเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน ประเทศไทยวางเป้าหมายเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์"
 

สำหรับการพัฒนาพลังงานสะอาดถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานให้กับทุกภาคส่วน  โดยกระทรวงพลังงานมีพันธกิจที่สำคัญในการส่งเสริมการลดการปล่อยคาร์บอนจากภาคพลังงาน เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065 

พลังงานรุกปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

อย่างไรก็ดี กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการจัดทำแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan: NEP) ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและพลังงานที่มีความยั่งยืน อาทิ การเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดสำหรับการผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าใหม่ไม่น้อยกว่า 50% ภายในปี 2050 และส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้มีสัดส่วน 30% ภายในปี ค.ศ.2030 เป็นต้น  

ผศ.ดร. อุเทน สุปัตติ อุปนายกฝ่ายวิชาการและผู้แทนนายกสมาคม สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวว่า ปัจจุบันยานยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความสนใจในวงกว้างไม่เพียงแค่ภาคครัวเรือน แต่ยังรวมถึงภาคอุตสาหกรรม เห็นได้ชัดจากการเปิดตัวสถานีชาร์จที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 4,600 แห่ง  จากข้อมูลเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา 

ส่วนภาครัฐได้ออกมาตรการสนับสนุน อาทิ ลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2% สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงเงินอุดหนุน 18,000 บาทต่อคันสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ เป็นต้น 

ซึ่งสมาคมฯมีความตั้งใจที่จะพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ ด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า เป็นแกนกลางในการส่งเสริมและสนับสนุน ผู้ใช้งาน รวมทั้งผู้ประกอบการ ตลอดจนผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง 

นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า งาน ASEAN Sustainable Energy Week 2023 (ASEW) ถือเป็นเวทีระดับภูมิภาคที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกภาคส่วน โดยงานครั้งนี้อยู่ภายใต้แนวคิด “Powering the Clean Energy Transition Toward Carbon Neutrality Goal” หรือ ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน