นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. มีนโยบายในการสนับสนุนการนำรถมินิบัสไฟฟ้า (EV) มาใช้ในพื้นที่ของ กฟผ. โดยเริ่มที่ กฟผ. สำนักงานใหญ่ ศูนย์การเรียนรู้ และที่ กฟผ. แม่เมาะ ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดถึง 28 คัน ดำเนินการ โดย บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ กฟผ. ช่วยส่งเสริมนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ
และสนับสนุนแนวทางการพัฒนาพื้นที่อำเภอแม่เมาะและจังหวัดลำปางสู่การเป็นเมืองเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ให้แม่เมาะและจังหวัดลำปางเป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน โดยหันมาใช้รถบัสไฟฟ้าแทนรถบัสดีเซลแบบเดิม ซึ่งจะช่วยลดปัญหามลภาวะและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดจากไอเสียของยานยนต์ และช่วยเพิ่มความคล่องตัวบนท้องถนนด้วยรถที่ขนาดเล็กลง
สำหรับค่าเชื้อเพลิงเมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันแล้ว รถมินิบัสไฟฟ้าจะใช้พลังงานเฉลี่ย 0.6 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 1 กิโลเมตร หรือคิดเป็นค่าไฟประมาณ 2.90 บาทต่อกิโลเมตร ในขณะที่รถน้ำมันจะมีค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงประมาณ 8 บาทต่อกิโลเมตร
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา กฟผ. ยังมีการรณรงค์ใช้รถไฟฟ้าในองค์กร เช่น มีการปรับรถประจำตำแหน่งผู้บริหารเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด และในอนาคตจะมีการปรับเปลี่ยนรถสำหรับใช้ในหน่วยงานต่าง ๆ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ กฟผ. มุ่งมั่นสนับสนุนและขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ในระดับประเทศ ผ่านการดำเนินงานและการร่วมเป็นพันธมิตรกับองค์กรเครือข่ายต่าง ๆ อาทิ การติดตั้งสถานีชาร์จ EleX by EGAT ทั่วประเทศไทย ภายในสิ้นปี 2566 ตั้งเป้าหมายขยายสถานีและสถานีพันธมิตรในเครือข่าย จำนวนรวม 180 สถานี การพัฒนาแอปพลิเคชัน EleXA สำหรับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาระบบบริหารจัดการสถานีอัดประจุไฟฟ้า BackEN EV สำหรับองค์กร และภาคธุรกิจ
รวมถึงร่วมขับเคลื่อนและรณรงค์การใช้งานในแคมเปญระดับประเทศ เพื่อให้ประเทศพร้อมสูงสุดในการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า สร้างระบบการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปูทางสู่เป้าหมายร่วมตามนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในอนาคต
นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า จังหวัดลำปางได้ร่วมมือกับ กฟผ. แม่เมาะ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ชุมชนแม่เมาะ พัฒนาอำเภอแม่เมาะให้เป็นเมืองน่าอยู่ (Mae Moh Smart City) โดยขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่แม่เมาะ เพื่อมุ่งสู่เมืองเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำของจังหวัดลำปาง สอดรับกับนโยบาย Carbon Neutrality ซึ่งประเทศไทยมีเป้าหมายที่จะบรรลุ Net Zero Emission ภายในปี ค.ศ. 2065