ดร.ชนะ ภูมี นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) เปิดเผยว่า ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการชุดใหม่ (บอร์ด) ของ สมาคมผู้ผลิตซีเมนต์และคอนกรีตโลก (Global Cement and Concrete Association: GCCA) วาระปี 2566-2568
ทั้งนี้ จะมุ่งต่อยอดนำกลยุทธ์ความสำเร็จการขับเคลื่อนของไทยไปเชื่อมโยงกับโมเดลระดับโลกแบบบูรณาการ เพื่อบรรลุเป้าหมายลดคาร์บอนในซีเมนต์และคอนกรีตเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 โดยผู้ผลิตปูนซีเมนต์ของไทยเป็นที่ยอมรับในระดับโลก
สำหรับความร่วมมือของสมาชิก TCMA ซึ่งเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์ของไทยทุกรายที่ให้ความสำคัญต่อการลดคาร์บอนของอุตสาหกรรมและเดินไปในทิศทางเดียวกันนั้น นำมาสู่การจัดทำ Thailand 2050 Net Zero Cement & Concrete Roadmap รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ ภาควิชาชีพ ภาคอุตสาหกรรม ภาคการศึกษา ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการร่วมมือเปลี่ยนแปลงการใช้ปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ
โดยเป็นต้นแบบของการสร้างกระบวนการขับเคลื่อนการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ให้เกิดอย่างเป็นรูปธรรม จึงได้รับการยอมรับแนวทางดำเนินงาน ให้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในบอร์ด GCCA ขับเคลื่อนวงการซีเมนต์และคอนกรีตระดับโลก
นอกจากนี้ TCMA ยังริเริ่มความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (Public-Private Partnership: PPP) จนทำให้เกิดต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกในไทย ที่จังหวัดสระบุรี เรียกว่า “PPP-Saraburi Sandbox: A Low Carbon City” โดยร่วมมือกันดำเนินงาน ทั้งในด้านพลังงาน (Energy) ด้านกระบวนการทางอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์ (Industrial Processes and Product Use : IPPU) ด้านการจัดการของเสีย (Waste) ด้านการเกษตร (Agriculture) และด้านป่าไม้และการใช้ประโยชน์ที่ดิน (Land Use, Land-Use Change and Forestry : LULUCF)
สอดคล้องตาม Thailand NDC Roadmap โดยครอบคลุมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยี วิจัยนวัตกรรม ปรับปรุงกฎระเบียบ และสร้างความเข้าใจ มีการคิดค้นกระบวนการทำงานใหม่ ได้ผลลัพธ์แบบ win-win-win จนทำให้มีความก้าวหน้าดำเนินงานได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย การสร้างความร่วมมือกันทั้งจังหวัดในการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ พัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียวคู่กับชุมชน
"นับได้ว่าเป็นเป็นการทำงานอย่างบูรณาการของ TCMA ซึ่งเป็นสมาคมความร่วมมือของผู้ผลิตปูนซีเมนต์ของไทย โดยการขับเคลื่อนทั้งภายในประเทศ จากระดับชุมชน อุตสาหกรรม จนถึงระดับประเทศ เชื่อมกับภาพรวมระดับโลก โดย GCCA เพื่อเชื่อมต่อไปยัง COP หรือ World Economic Forum ในการเชื่อมโยงแหล่งทุนสนับสนุนต่างๆ (Green Fund) เข้ามาสู่ประเทศไทย ขับเคลื่อนให้เกิดการลงทุนเพื่อบรรลุเป้าหมายสังคมคาร์บอนต่ำต่อไป"