นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคิล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เปิดเผยในงาน “SUSTAINABILITY FORUM 2024” ในหัวข้อ "ถอดสูตรธุรกิจ สู่ความยั่งยืน Digital Innovation for Sustainability" ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ว่า จะมุ่งเน้นกลยุทธ์สำคัญเพื่อสร้างการเติบโต และก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2593 ผ่านเรื่องหลัก ได้แก่
เร่งความสามารถทางการแข่งขัน โดยมองเรื่องความยั่งยืนมาบูรณาการร่วมกับการแข่งขัน เพื่อสนองผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งหากต้องการให้ผลิตภัณฑ์ยั่งยืนจะต้องเลือกทำโครงการและสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดี สอดคล้องกับเมกะเทรนด์
อย่างไรก็ดี GC ยังตั้งเป้า Net Zero โดยจะไม่สร้างภาระให้กับคนรุ่นหลัง ผ่านแต่ละขั้นตอนของการทำงานที่ชัดเจน โดยผู้ที่จะมาทำต่อจะต้องมั่นใจว่าทำได้ตามแผน ปี 2573 ซึ่งต้องลดปริมาณคาร์บอนให้ได้ 50% โดยปัจจุบันในพอร์ตโฟลิโอด้านผลิตภัณฑ์สามารถลดได้ 20% ที่เหลือทำในเรื่องของการลดการปลดปล่อยคาร์บอน ซึ่งจะเป็นการนำมาเก็บไว้ในรูปแบบการดักจับคาร์บอน Carbon Capture and Storage : CCS
"CG มีแผนการลงทุน 5-10 ปี ทั้งในเรื่องของเงินลงทุน สัดส่วนการประหยัดพลังงาน ความมสามารถทางการแข่งขันที่จะต้องดีขึ้น การเก็บคาร์บอนแล้วนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ เป็นต้น"
นายคงกระพัน กล่าวอีกว่า GC ถือเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการปลดปล่อยคาร์บอน แต่ก็ยังสามารถผลิตสินค้าที่ปล่อยคาร์บอนต่ำด้วย โดยได้มีการตั้งโรงงานรีไซเคิลพลาสติกครบวงจรระดับสากลขนาดใหญ่สุดในประเทศ ซึ่งนอกจากจะได้สินค้าที่มาจากการรีไซเคิลแล้วยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลดคาร์บอนได้ดีที่สุด และยังช่วยลดจำนวนขยะ
ขณะที่การเข้าซื้อหุ้น Allnex ซึ่งประกอบธุรกิจในการผลิต Coating Resins และสาร Additives ที่ใช้ในงานสถาปัตยกรรมอุตสาหกรรมทั่วไป สารเคลือบป้องกันอุตสาหกรรมรถยนต์รวมทั้งสารเคลือบผิวและหมึกชนิดพิเศษ จะช่วยลดแรงเสียดทาน และลดขยะได้ดี
นายคงกระพัน กล่าวอีกว่า การดำเนินธุรกิจตามแนวคิด ESG ยึดหลักความสมดุล ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่ง GC ถือเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ของประเทศไทยที่มีหุ้นส่วนอยู่ทั่วโลก และขนาดใหญ่สุดในเซาท์อีสเอเชีย