อินโดรามาฯได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ปีที่ 5

19 ธ.ค. 2566 | 10:02 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ธ.ค. 2566 | 10:13 น.

อินโดรามาฯ เวนเจอร์ส เจ๋งได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ผู้บริหารชี้เป็นบทสะท้อนความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามหลักการ ESGs ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

รายงานข่าว (19 ธ.ค. 2566) จากบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก เผยว่า บริษัทได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ระดับโลก (Dow Jones Sustainability World Index : DJSI World) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 และสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (DJSI Emerging Markets) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ซึ่งการได้ร่วมเป็นสมาชิกอย่างต่อเนื่องนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ต่อหลักการด้านความยั่งยืน โดยยึดแนวปฎิบัติด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) อย่างเข้มแข็ง

 

โดยอินโดรามา เวนเจอร์ส ได้รับการจัดอันดับอยู่ในเปอร์เซ็นไทล์ที่ 92 จากบริษัทเคมีภัณฑ์ทั้งหมด 11 บริษัท ที่ได้รับคัดเลือกอยู่ในการจัดอันดับ จาก 89 บริษัทในอุตสาหกรรมเคมีที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการคัดเลือก ด้วยคะแนนการประเมินความยั่งยืนขององค์กร (CSA) ที่ 73 คะแนนจาก 100 คะแนน

คะแนนดังกล่าวนี้สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่เป็นเลิศของบริษัทฯ ในด้านการจัดการนวัตกรรม ซึ่งครอบคลุมนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมด้านกระบวนการ และนวัตกรรมแบบเปิด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาร่วมกันกับองค์กรภายนอก เช่น ลูกค้า ซัพพลายเออร์ เจ้าของแบรนด์ และสถาบันการศึกษา

นอกจากนี้ยังยกย่องความสำเร็จของบริษัทฯ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ความทนทานและความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ การจัดการขยะพลาสติกและการรีไซเคิล ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร และการมีส่วนร่วมในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs

นายยาช โลเฮีย ประธานคณะกรรมการด้านการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมเป็นสมาชิกอยู่ในดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ต่อเนื่องอีกปี ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำ ความเป็นเลิศ และการบุกเบิกแนวทางด้านความยั่งยืนและนวัตกรรมของบริษัท จากความทุ่มเทในการจัดการกับความท้าทายระดับโลก และการมีส่วนร่วมในอนาคตที่มีความหมุนเวียนมากขึ้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยความสำเร็จครั้งสำคัญนี้เน้นย้ำถึงวัตถุประสงค์ขององค์กรในการ "ร่วมกันยกระดับเคมีภัณฑ์เพื่อโลกที่ดีกว่า"