เอคเซนเซอร์ ยํ้า 5G ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม เร่งพัฒนาทักษะบุคลากรรองรับ เผยผลสำรวจความคิดผู้บริหาร คาด 3 ปีข้างหน้าจะเข้าสู่ช่วงหลังยุคดิจิทัล ชี้จับตา 5 เทรนด์เทคโนโลยีที่สำคัญ
นายนนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า เอคเซนเซอร์ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารไทยและทั่วโลกจากองค์กร ชั้นนำกว่า 20 อุตสาหกรรม และได้จัดทำรายงานในหัวข้อ “โลกหลังยุคดิจิทัลอยู่เบื้องหน้าเราแล้ว” ซึ่งจากรายงานพบว่า ภายในอีก 3 ปีข้างหน้าโลกจะเข้าสู่ช่วงหลังยุคดิจิทัล (Post digital era) โดยพบว่าผู้บริหารไทย 95% มองว่าเทคโนโลยี 5G จะเข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมโดยจะทำให้เกิดวิธีการใหม่ๆ ในการนำเสนอสินค้าและบริการ โดยคาดว่า 5G จะส่ง ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและภาคธุรกิจภายใน 1-2 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ทุกองค์กร มีความจำเป็นที่จะ ต้องพัฒนาทักษะของบุคลากร เพื่อ ให้ทันตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป
ส่วนเทรนด์เทคโนโลยีที่องค์กรต้องให้ความสำคัญ เทรนด์ แรกคือ DARQ POWER หรือการทำ ความเข้าใจกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยน แปลงโลกในอนาคต ซึ่ง DARQ ประกอบด้วย D:Distributed Ledgers Block chain หรือการกระ จายข้อมูลที่เชื่อมโยงกันด้วยบล็อกเชน, A:Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ), E:Extended Reality หรือความเป็นจริงขยาย และ Q:Quantum Computing หรือการประมวลผลควอนตัม ทั้งนี้ผลการสำรวจพบว่า 95% ของ องค์กรธุรกิจได้มีการทดลองใช้ DARQ ประเภทใดประเภทหนึ่งหรือ มากกว่านั้น โดยเทคโนโลยีที่ผู้บริหาร ทั่วโลกจัดอันดับว่าส่งผลกระทบต่อองค์กรมากสุด คือ เอไอ ที่ 41% ส่วนผู้บริหารไทยมองว่าบล็อกเชน มีผลกระทบต่อธุรกิจมากสุด คือ 35%
เทรนด์ที่ 2 Get to know me การเรียนรู้เอกลักษณ์เฉพาะของลูกค้า เพื่อเข้าถึงโอกาสเฉพาะกลุ่ม โดยการรู้จักและทำความเข้าใจกับลูกค้ารุ่นใหม่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในโลกหลังยุคดิจิทัลได้ ซึ่งผู้บริหารไทย 90% เผยว่ามีการใช้ข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคอยู่แล้ว เชื่อว่าโครงสร้างประชากรดิจิทัลจะทำให้องค์กรต้องใช้วิธีใหม่ๆ หาโอกาสทางการตลาดเพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคที่ยังไม่มีใครตอบโจทย์ อีกทั้ง 95% ของผู้บริหารไทยเชื่อว่าโครง สร้างประชากรผู้บริโภคดิจิทัล เมื่อเทียบกับโครงสร้างประชากรแบบดั้งเดิม จะเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการทำความเข้าใจลูกค้าองค์กร ซึ่งคาดว่าในอีก 2 ปีข้างหน้าปริมาณข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างประชากรผู้บริโภคดิจิทัลจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
เทรนด์ที่ 3 Human+ Worker การปรับที่ทำงาน หรือปิดกั้นคนทำงาน ผู้บริหารไทย 60% เห็นว่าความคุ้นเคยและความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลของพนักงานมีความลํ้าหน้ากว่าองค์กร ซึ่งเกือบ ครึ่งของผู้บริหารทั่วโลกเชื่อว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า ฝ่ายทรัพยากรบุคคลในองค์กรจะมีการใช้เอไอเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล โดย 48% ของผู้บริหารทั่วโลกและ 55% ของผู้บริหารไทยคาดว่าฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะใช้เอไอในการสรรหาและจ้างงาน, 48% ใช้ฝึกอบรมและฝึกหรือต่อยอดทักษะใหม่ ทั้งนี้ผู้บริหารไทยยังมองว่าภายใน 3 ปีพนักงานกว่าครึ่งต้องมีการพัฒนาทักษะ ซึ่ง 87% ของผู้บริหารไทยเชื่อว่าการเปลี่ยนย้ายตำแหน่งและหน่วยงานอย่างรวดเร็วจะทำให้เกิดการพัฒนาทักษะของพนักงาน
เทรนด์ที่ 4 Secure us to secure me หรือการคำนึงถึงความปลอดภัยขององค์กรพันธมิตร ซึ่งผู้บริหารของไทยมีเพียง 28% เท่านั้นที่ทราบว่าพันธมิตรในระบบนิเวศของตนมีการดำเนินการด้านมาตรการความปลอดภัยอย่างจริงจัง นอกจากนี้ 85% ของผู้บริหารไทยเห็นด้วยว่าหากองค์กรต้องการปรับตัวให้ดีขึ้น จะต้องตระหนักถึงความปลอดภัยทั้งภายในองค์กรและระบบนิเวศขององค์กรด้วย
และเทรนด์ที่ 5 Mymarkets หรือการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเวลานั้นๆ ปัจจุบันการแข่งขันไม่ใช่เรื่องของราคาเท่านั้นแต่สิ่งสำคัญคือเรื่องของเวลา ใครที่สามารถส่งสินค้าได้เร็วกว่ากันในเวลาที่ลูกค้าต้อง การตลาด Momentary Market หรือตลาดเฉพาะช่วงเวลา เป็นสิ่งที่องค์กรต้องเข้าใจความต้อง การของลูกค้าในช่วงระยะเวลานั้นๆ โดย 95% ของผู้บริหารไทยเห็นด้วยว่า ในอนาคตการแข่งขันจะอยู่ที่ว่าใครสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในช่วงเวลานั้นได้ก็จะได้เปรียบ
หน้า 12 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3465ระหว่างวันที่ 28 เมษายน-1 พฤษภาคม 2562