นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าเจมาร์ท ได้ประกาศกลยุทธ์ใหม่ “Gadget destination” โดยภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าวจะมุ่งการทำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเล่นเทคโนโลยีที่มีมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท และมีการเติบโตสูง เพื่อมาทดแทนรายได้จากสมาร์ทโฟนที่ภาพรวมไม่เติบโตขึ้น ทั้งนี้การดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ใหม่นั้นบริษัทได้ใช้งบประมาณราว 30 ล้านบาท เปิดช็อปใหม่ภายใต้แบรนด์ “Jaymart IoT” ที่จะเป็นแหล่งรวมนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับไลฟ์สไตล์ยุค 5G ที่กำลังมา ทั้งสินค้ากลุ่มแกดเจต และ IoT ไว้ มากกว่า 100 แบรนด์ เบื้องต้นผลิตภัณฑ์หลักในกลุ่มนี้ คือ สมาร์ทวอตช์ หูฟังไร้สาย ลำโพงไร้สาย เครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะ และกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฮม
โดยใน “Jaymart IoT” จะมีสินค้ากลุ่มแกดเจต 80% และสมาร์ทโฟน 20% โดยสาขาแรกที่เปิดได้รีโนเวต Jaymart Shop ที่เมกา บางนา เป็น “Jaymart IoT” ส่วนแห่งที่ 2 เป็นช็อปเปิดใหม่ที่แฟชั่นไอส์แลนด์ ซึ่งปีนี้จะมีช็อปที่รีโนเวต เป็น Jaymart IoT เพิ่มอีก 8 แห่ง รวมเป็นทั้งหมด 10 แห่ง ส่วน Jaymart Shop ที่มีอยู่ทั้งหมด จะปรับสัดส่วนขายสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟน จากเดิม 80% เหลือ 50% และแกดเจต จากเดิม 20% เป็น 50%
“เทรนด์รักสุขภาพ กระแสการเข้ามาของบริการ 5G การเข้ามาแข่งขันของแบรนด์ ทั้งหัวเว่ย วีโว่ ออปโป้ เป็นอัตราเร่งการเติบโตของกลุ่มของเล่นเทคโนโลยี และอุปกรณ์ IoT ส่วนสมาร์ทโฟนปีนี้ตลาดคงไม่เติบโต”
พร้อมประกาศ แคมเปญใหญ่ “Jaymart We Care ดูแลเครื่อง ดูแลคุณ” โดยร่วมกับ บริษัท เจพี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) มอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าที่ซื้อสมาร์ทโฟนหรือแกดเจตกับเจมาร์ท ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2563 จะได้รับสิทธิประโยชน์ฟรีประกันเครื่องนาน 3 ปี ฟรีประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปี อีกทั้งเจ้าของเครื่องยังจะได้รับฟรีประกันอุบัติเหตุนาน 6 เดือน มีค่ารักษาพยาบาล 2,000 บาทต่อครั้ง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง รับประกันความเสียหายที่เกิดจากสินค้าสูงสุด 100,000 บาท นอกจากนี้ยังได้รับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ส่วนลด 10% ประกันการเดินทาง และส่วนลด 500 บาท ประกันรถยนต์ชั้น 1
หน้า 26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,550 วันที่ 20-22 กุมภาพันธ์ 2563