วันที่ 12 พ.ค. 63 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบถึงความจำเป็นในการออก ร่างพระราชกฤษฎีกา ขยายเวลาการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (พรบ.คุ้มครองข้อมูลสวนบุคคล) ในหมวด 2 การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมวด 3 สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมวด 5 การร้องเรียน หมวด 6 ความรับผิดทางแพ่ง หมวด 7 บทกำหนดโทษ และความในมาตรา 95 และมาตรา 96 ออกไปอีก 1 ปี ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
"เพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน เนื่องจากหากมีการบังคับใช้ตามกำหนดเวลาเดิมในขณะที่ทุกภาคส่วนยังไม่พร้อม อาจทำให้เกิดการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายได้โดยไม่ตั้งใจ รวมทั้งอาจเป็นช่องทางให้ผู้ที่ทุจริตแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ"
นางสาวรัชดา กล่าวอีกว่า มากไปกว่านั้น ด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ภาคเอกชนไม่ว่าขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก เกิดปัญหาสภาพคล่องในการลงทุนเพื่อปรับปรุงกระบวนงาน ระบบสาระสนเทศ และการจัดหาหรือจัดอบรมบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความพร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย การเลื่อนบังคับใช้กฎหมายจึงเอื้อต่อภาคเอกชนให้มีเวลาได้เตรียมความพร้อมอย่างเหมาะสม ซึ่งกระทรวงดิจิทัลฯ จะเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวาระต่อไป
"สรุปคือ เนื่องจากพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บางหมวดมีผลบังคับใช้วันที่ 27พ.ค.63 จะมีการเสนอพระราชกฤษฎีกาเลื่อนไปอีก 1 ปี วันนี้ครม.รับทราบความจำเป็น ตัวร่างพระราชกฤษฎีกาจะเข้าครม.อีกครั้งต่อไป"
นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทางกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ดำเนินการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว โดยอยู่ระหว่างการนำเสนอรายชื่อบุคคลต่อคณะรัฐมนตรี และอยู่ในขั้นตอนการจัดทำกฎหมายลำดับรอง เช่น 1)การบริหารจัดการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2)การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล 3)การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ 4)สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล 5)หน้าที่ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ( 6) การร้องเรียนและโทษปรับทางปกครอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโทษหนักเจอคุก 1 ปี ปรับ 3 ล้าน
อ่านรายละเอียด