เอริน เพตติกรูว์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ Reels กล่าวว่า “เรารับฟังและได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิ่งที่ชุมชนผู้ใช้งานของเรามองหา นอกเหนือจากช่องทางการแชร์วิดีโอทั่วไปแล้ว พวกเขายังอยากมีวิธีการสร้างสรรค์ใหม่ๆ หรือรับชมวิดีโอสั้น หรือวิดีโอที่มีลูกเล่นในการตัดต่อเพื่อเพิ่มความสนุกในเนื้อหา และเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเป็นครีเอเตอร์ระดับโลกที่เข้าถึงผู้ชมจำนวนมากขึ้นและมีความหลากหลายขึ้นบน Instagram เรามองว่า Reels เป็นส่วนสำคัญในการสร้างอนาคตด้านความบันเทิงบน Instagram ในวันนี้เรามีความยินดี และรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้นำเสนอช่องทางใหม่ๆ เพื่อให้คนไทยได้แสดงออกถึงตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาผ่าน Reels”
การเปิดตัว Reels ในครั้งนี้ถือเป็นการมอบพื้นที่ให้ผู้คนได้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ในรูปแบบใหม่ โดยใช้เครื่องมือตัดต่อวิดีโอ เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่ใหญ่ขึ้น และมีความหลากหลายมากขึ้น โดย Reels นั้นมาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ที่ผู้ใช้งานสามารถใช้ถ่ายวิดีโอ และตัดต่อด้วยเอฟเฟกต์ และรับชมวิดีโอแบบ short form ความยาวประมาณ 15-30 วินาทีได้ โดยแท็บสำหรับ Reels จะถูกเพิ่มเข้ามา ในขณะที่ผู้ใช้งานยังคงสามารถแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ผ่านวิดีโอทาง Instagram Stories ข้อความส่วนตัว และฟีดข่าว ได้ตามปกติ
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (23 มีนาคม 2564) ผู้ใช้งานในประเทศไทยสามารถใช้ Reels ได้ผ่านฟังก์ชันกล้องของ Instagram เพื่อถ่ายวิดีโอลง Reels ได้โดยตรง หรือสามารถนำวิดีโอที่เก็บไว้ในเครื่องมาตัดต่อโดยใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ที่มีให้ โดย Reels นั้นมีเครื่องมือต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้สามารถสร้างวิดีโอสนุกสุดสร้างสรรค์ได้ เช่น
• ความเร็ว: สามารถเลือกเร่งความเร็ว หรือทำให้วิดีโอหรือเสียงดนตรีช้าลงได้ เพื่อให้วิดีโอเข้ากับจังหวะ หรือทำเป็นวิดีโอสโลโมชันได้
• ตัวตั้งเวลา: ตั้งเวลาอัดคลิปได้โดยไม่ต้องใช้มือจับ
• ตัวหนังสือและสติกเกอร์: ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มตัวหนังสือหรือสติกเกอร์ในเวลาที่กำหนดได้
• การจัดแนว: ตั้งหรือเรียงสิ่งที่ต้องการจะถ่ายจากคลิปก่อนหน้าให้ตรงกันก่อนที่จะอัดคลิปต่อไป เพื่อให้แต่ละเทคลื่นไหล ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนชุดหรือเพิ่มเพื่อนเข้าไปในวิดีโอ
• แต่งให้สวย: เพิ่มความเนียนสวยให้กับวิดีโอ โดยสามารถเลือกความเข้มของเอฟเฟกต์ได้
การเปิดตัว Reels ในประเทศไทยครั้งนี้เป็นการมอบช่องทางใหม่ๆ ให้ผู้ใช้งานชาวไทยได้สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและสะท้อนคาแรคเตอร์และความคิดสร้างสรรค์ที่พวกเขามี โดยแท็บสำหรับ Reels นั้นจะทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลกสามารถค้นพบวิดีโอที่เก็บช่วงเวลาแห่งความสนุกและแรงบันดาลใจทั้งจากผู้ใช้งานคนอื่นๆ และครีเอเตอร์บน Instagram
สร้างอนาคตแห่งความบันเทิงด้วย Reels และดนตรี
นอกเหนือจากการเปิดตัว Reels บน Instagram แล้ว วิสัยทัศน์ของ Facebook และการทำงานด้านดนตรี มีความเหมือนกันในเรื่องของการร่วมสร้างชุมชน การทำให้ผู้คนได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น การเป็นช่องทางการแสดงออก และการเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้น Facebook จึงได้เปิดตัวช่องทางใหม่เพื่อให้ผู้คนได้ใกล้ชิดกับศิลปินหรือกลุ่มคนดนตรีที่พวกเขาชื่นชอบผ่านแอปพลิเคชันในเครือ
Facebook เปิดตัวฟีเจอร์เพลงบน Facebook และ Instagram แบบเต็มรูปแบบโดยมองว่าเป็นอนาคตแห่งความบันเทิงของแอพพลิเคชันในเครือ โดนครอบคลุมฟีเจอร์ดังนี้
• คลังเพลงที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์เนื้อหาไปพร้อมกับเพลงที่ถูกลิขสิทธิ์
• สติกเกอร์เพลงบน Facebook Stories และ Instagram Stories
• สติกเกอร์เนื้อเพลงบน Facebook Stories และ Instagram Stories
• การใส่เพลงบนโปรไฟล์ Facebook
“เรานำเสียงเพลงและดนตรีมาอยู่บนพื้นที่ที่ผู้คนใช้เพื่อแชร์และเชื่อมต่อถึงกันอยู่แล้ว นั่นทำให้การนำเสนอประสบการณ์ดนตรีของเรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เราทำงานร่วมกับพันธมิตรด้านเพลงและดนตรีเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการเชื่อมต่อบนโซเชียลให้กับเหล่าศิลปิน นักแต่งเพลง คนรักดนตรี และผู้คนผ่านแอปพลิเคชันในเครือ โดยเฉพาะ Facebook และ Instagram” ธารินาถ ภัทรเรืองรอง ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธพันธมิตรด้านความบันเทิงของ Facebook ประเทศไทย กล่าว
การเปิดตัวฟีเจอร์ด้านดนตรีในประเทศไทยนี้ เกิดขึ้นได้ผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลาย รวมถึงบริษัท ลิขสิทธิ์ดนตรี (ประเทศไทย) จำกัด โดย ณฐพล ศรีจอมขวัญ ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า “ในยุคปัจจุบัน คนปรับเปลี่ยนวิธีการฟังเพลงและใช้งานดนตรีด้วยรูปแบบใหม่ๆ ตลอดเวลา สำหรับฟีเจอร์เพลงของ Facebook และ Instagram ที่เปิดตัวใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ที่ชอบดนตรีได้สัมผัสผลงานและรู้จักอุตสาหกรรมดนตรีในมิติใหม่ๆ มากขึ้น อีกทั้งยังเข้าถึงดนตรีได้ง่ายขึ้นในชีวิตประจำวัน MCT สนับสนุน พัฒนา และส่งเสริมวัฒนธรรมดนตรีในประเทศมาโดยตลอด เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ Facebook ที่จะนำเสนอวิธีการใหม่ๆ ในการแบ่งปันบทเพลงต่อผู้คน สร้างสรรค์งานดนตรีที่พวกเขารัก รวมถึงเพิ่มโอกาสการทำงานให้ศิลปิน ผู้สร้างสรรค์ ได้เข้าถึงกลุ่มแฟนเพลง ผมมองว่าปัจจุบัน Facebook และ Instagram ได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญในการขยายผลงานให้กับศิลปิน นักแต่งเพลงอย่างมาก เราหวังว่าฟีเจอร์เพลงใน Facebook และ Instagram นี้จะช่วยให้ศิลปินได้แชร์ผลงานของตัวเองกับแฟนๆ Music creators ได้สร้างสรรค์ผลงานให้ Music lovers ฟังอย่างทั่วถึงมากขึ้น”