ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า จากการที่ไปรษณีย์ไทยมีเครือข่ายที่ทำการที่ครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศ จึงได้ใช้ช่องทางดังกล่าวในการให้บริการธุรกรรมทางการเงินกับภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้จับมือกับกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เปิดบริการให้ประชาชนสามารถนำส่งเงินสะสมกองทุนการออมแห่งชาติ ได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการนำจุดแข็งด้านเครือข่าย มาช่วยส่งเสริมพฤติกรรมการออมเงินของคนไทยผ่านการอำนวยความสะดวกด้วยการเพิ่มทางเลือกการออมเงินให้แก่สมาชิก กอช. โดยไปรษณีย์ไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มชาวบ้าน แม่ค้าพ่อค้า หรือกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ให้สามารถนำส่งเงินออมได้ง่ายขึ้น เพื่อการมีเงินออมที่สามารถเก็บไว้ใช้ได้รายเดือนเมื่อยามอายุ 60 ปี โดยสามารถเริ่มนำส่งเงินกับไปรษณีย์ไทยเริ่มต้นเพียง 50 บาท โดยไม่มีค่าธรรมเนียมในการนำส่งเงินใด ๆ ทั้งสิ้น
“อย่างไรก็ตามไปรษณีย์ไทยได้มีการต่อยอดการให้บริการ Bank@POST ที่ไปรษณีย์ไทยเปิดรับฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารกว่า 10 ธนาคาร ณ ที่ทำการไปรษณีย์ โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2554 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มประชาชนในพื้นที่ภูมิภาค หรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล และไม่สะดวกในการเดินทางไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร ให้สามารถมาฝากเงินที่ไปรษณีย์แทน”
ไปรษณีย์ไทยในฐานะขนส่งหลักของชาติ ที่มุ่งพัฒนาองค์กรสู่การดำเนินงานในรูปแบบ Tech Post นอกจากจะเดินหน้าส่งความช่วยเหลือให้แก่ภาคเศรษฐกิจและสาธารณสุขมาอย่างต่อเนื่องแล้ว จะขอเดินหน้าสนับสนุนสังคมอย่างรอบด้านไปพร้อมกัน ผ่านการใช้เทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวกในส่วนงานด้านต่าง ๆ ที่ไปรษณีย์ไทยมี ส่งเสริมการให้บริการสู่ประชาชนร่วมกับองค์กรพันธมิตร เพื่อยกระดับการให้บริการและคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยต่อไป ดร.ดนันท์ กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า กอช. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาช่องทาง ยกระดับการเข้าถึงบริการออมเงินของประชาชนคนไทยมาโดยตลอด และในปีนี้ กอช. ร่วมกับ ไปรษณีย์ไทย เพิ่มหน่วยบริการแก่สมาชิกผ่านเครือข่ายที่ทำการไปรษณีย์ และเคาน์เตอร์ไปรษณีย์ กว่า 1,500 แห่ง ทั่วประเทศ ให้สมาชิกสามารถออมเงินได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และฟรีค่าธรรมเนียมอีกด้วย สำหรับสมาชิก กอช. ที่ต้องการนำส่งเงินออมสะสม ง่ายๆ เพียงแจ้งเลขบัตรประชาชน 13 หลัก หรือนำบัตรประชาชนตัวจริงมาแสดง หรือยื่นบาร์โค้ดในแอปพลิเคชัน กอช. เพื่อทำรายการ โดยสามารถนำส่งเงินออมสะสมได้ 1 ครั้ง/เดือน ตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไป และต้องมียอดเงินออมสะสมรวมกันสูงสุดไม่เกิน 13,200 บาท/ปี (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ พ.ร.บ. กอช. กำหนด) สมาชิกสามารถดูยอดเงินออมสะสม เงินสมทบที่ได้จากรัฐผ่านแอปพลิเคชัน “กอช.” ได้ด้วยตนเอง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทุนการออมแห่งชาติ สายด่วนเงินออม โทร. 02-049-9000