AIS กางแผนยุทธศาสตร์ 3 แกนหลักปักธงผู้นำโมบายเสริมแกร่ง 5G ต่อยอดธุรกิจ

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวในเวทีเสวนา “หุ้น Big Cap เย้ายวนใจ หรือไร้เสน่ห์” จัดโดยหนังสือพิมพ์ "ฐานเศรษฐกิจ” ว่า AIS เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคม มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในประเทศกว่า 42 ล้านราย  มีผลประกอบการกำไร และ จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีหน้า (2565) เทคโนโลยี 5G คือ อนาคตของ AIS

 

ลั่น! ไม่จำกัดเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมมุ่ง Digital Service Provider

 

นายสมชัย กล่าวว่า หลายคนรู้จัก AIS เป็นอย่างดีเราเป็นผู้นำโทรคมนาคมในประเทศไทยเราเป็นบริษัทที่มีหุ้นปันผลดี อันแรกที่อยากบอก AIS เป็นบริษัทเพิ่งเกิดมา 31 ปี กำลังเข้าสู่ปีที่ 32 ในปีนี้ ใน 25 ปีแรกรับสัญญาร่วมการงานกับองค์กการโทรศัพท์แห่งประเทศไทย และ  รับใบอนุญาติตั้งแต่ผมเป็น ซีอีโอ เป็นระยะเวลากว่า 7 ปี

 

“ผมประกาศว่าไม่อยากเป็นแค่โทรคมนาคมเพียงอย่างเดียวแต่จะเป็น Digital Service Provider ที่จะสนับสนุนชีวิตของคนในชีวิตการทำงาน และ ใช้ชีวิตส่วนตัวนี่คือ สิ่งที่เราวางรากฐานไว้ให้กับ AIS”

 

นอกเหนือจาก Concession เราแข็งแรงมากๆ ไปสู่ Digital Service Provider ตลอดเวลา 30 ปี เราได้ Contribution ให้กับประเทศจ่ายค่าคลื่นความถี่ ส่วนแบ่งรายได้ประมาณ 8 แสนกว่าล้านบาทแล้ว แน่นอนยังไม่รวมเงินปันผลซึ่งมีอยู่ประมาณ 3%, 4% และ 5% ในแต่ละปีขึ้นอยู่กับราคาหุ้น ณ เวลานั้น ๆ

วาง 3 แกนหลักปักธงผู้นำตลาด

 

นายสมชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า AIS  ได้วางยุทธศาสตร์ให้องค์กรเจริญเติบโต ด้วย 3 แกนหลัก แกนแรก คือ โมบาย ทำให้แข็งแรงมากขึ้นซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ AIS อยู่แล้ว แต่ในปีหน้า (2565) ด้วยเทคโนโลยี 5G  จะเป็นอนาคตใหม่ของ AIS

 

สำหรับ CODE ENGINE อีก 2 อัน คือ อันแรกที่เพิ่งเกิด คือ เอไอเอส ไฟเบอร์ ได้กดปุ่มเข้าตลาดเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว รวมถึงกลุ่มลูกค้า ENTERPRISE   ซึ่ง เอไอเอส กำลังขยายธุรกิจกลุ่มลูกค้าองค์กร จำนวนกว่า 70% ใช้โมบาย ของ เอไอเอส แต่ยังไม่ได้ใช้ ICT ของ เอไอเอส ขณะนี้ เอไอเอส กำลังขยายและกำลังออกดอกออกผล   สำหรับแกนสุดท้าย คือ NEW DIGITAL BUSINESS  ได้แก่ วิดีโอ ,เกมส์  และ ไฟแนนซ์เชียล เป็นต้น 

 

5G พลิกโฉมพฤติกรรมผู้บริโภค

 

สำหรับเทคโนโลยี 5G หลายคนมองอาจมองแค่ความเร็ว แต่ไม่ได้มีแค่ความเร็ว แต่ 5G เป็นความเร็วสูงกว่า 3G และ 4G มีเรื่องความหน่วงต่ำ และ มีเรื่องของการทำ แมส สเกล   สิ่งเหล่านี้  จะพลิกโฉมการดำเนินชีวิตของคน   ทำให้เกิดบริษัทใหม่ๆ เกิดแอพพลิเคชั่นใหม่ ซึ่งในอดีต 3G และ 4G  ทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เลย  แต่เทคโนโลยี  5G  ทำให้เกิด Mass Transit  (แมสทรานสิท)   เช่น  รถยนต์ไร้คนขับ  การผ่าตัดทางไกล ด้วยความแม่นยำ ที่ใช้คลื่นความถี่ที่มีความหน่วงต่ำ

 

“แต่สิ่งที่จะย้ำกับนักลงทุน เทคโนโลยี 5G ประเทศไทยไม่ได้ล่าช้ากว่าในโลกนี้เลยเราเป็นผู้นำระดับโลก ด้วยซ้ำ เนื่องจาก 3G และ 4G เราอาจจะช้ากว่าต่างประเทศมา 10 ปี เนื่องจากการสรรหา กสทช. ล่าช้า ประมูลคลื่นความถี่ล่าช้าไปกว่าประเทศอื่น”

 

ลั่น! 5G สร้างรายได้ 4 หมื่นล้านบาท

 

นายสมชัย ยังกล่าวต่ออีกว่า เทคโนโลยี 5G ในประเทศไทย

มีโอกาสสร้างรายได้ภายใน 2-3 ปี อย่างน้อย  4 หมื่นล้านบาท จากรายได้ใหม่ ๆ เช่น อุตสาหกรรม อย่างเช่น WHA Group (บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สามารถนำเทคโนโลยี 5G ไปเชื่อมเรื่องของ Fixed Wireless Broadband (บริการบรอดแบนด์ไร้สายประจำที่ ) ในที่สายไฟเบอร์ไปไม่ถึง ยังไม่รวมโมบายแอพพลิเคชั่นซึ่งวันนี้ใช้กันอยู่มากในยุค 3G และ 4G แต่เทคโนโลยี 5G จะทำให้ AR (Augmented Reality เทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกแห่งความจริง ) และ VR (Virtual reality : เป็นการจำลองสภาพแวดล้อมจริงเข้าไปให้เสมือนจริง โดยผ่านการรับรู้จากการมองเห็น เสียง สัมผัส แม้กระทั้งกลิ่นเกิดขึ้น) และ นี่คือภาพที่เป็นโอกาสของ AIS ที่มีผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่แข็งแรงอยู่แล้ว แต่ถ้ามี 5G มาเสริมใหม่มีรายได้ใหม่อีกกว่า 4 หมื่นล้านบาทที่เกิดขึ้นในตลาดอย่างแน่นอน

 

นอกจากนี้ AIS  มีรายได้ในตัวที่สองเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจโมบาย  นั่นคือ เอไอเอส ไฟเบอร์ และ ตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร  ซึ่งมูลค่ากลุ่มลูกค้าองค์กรมีอยู่ประมาณ 3 แสนกว่าล้านบาท  วันนี้ AIS เพิ่งกดปุ่มเข้ามาในตลาดถ้ามีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่ม 10% มีรายได้ใหม่ที่เกิดขึ้นอีก 3 หมื่นล้านบาท วันนี้เป็นโอกาสใหม่ของ AIS อย่างมาก เหนืออื่นใด ธุรกิจ NEW DIGITAL BUSINESS  ส่วนนี้ถ้า AIS ทำสำเร็จจะมีแหล่งรายได้ใหม่มหาศาล เนื่องจาก AIS มี Concession ไปถึงกับลูกค้าประมาณกว่า 42 ล้านรายในปัจจุบัน มีดาต้า (ข้อมูล) เป็นจำนวนมากช่วยพันธมิตร วันนี้ดิจิทัลเซอร์วิส ของ AIS มีเป็นจำนวนมาก อาทิ  AIS PLAY ,DISNEY ,แบงก์กรุงไทย ,SCB เป็นต้น  เพื่อไปถึงมือลูกค้าเกิดและเติบโตยิ่งขึ้น

 

“ที่สำคัญ AIS ยังอยากเจริญเติบโตแบบยั่งยืน AIS มีผู้ถือหุ้นที่สำคัญอยู่แล้ววันนี้มีพื้นที่สองอย่างที่กำลังเติบโตและเกิดขึ้น สิ่งสำคัญมากๆ อุตสาหกรรม AIS และ ผู้บริโภคพร้อมมากๆ ขอเพียงแต่ภาครัฐเข้ามาช่วยเสริมและเพิ่มเติมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมขับเคลื่อนกับต่างประเทศ” นายสมชัยกล่าว

 

จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  ณ ไตรมาส 2/2564  AIS มีสินทรัพย์รวม 369,646.01 ล้านบาท  หนี้สินรวม 290,975.70 ล้านบาท  รายได้รวม 89,464.74 ล้านบาท  กำไรสุทธิ 13,684.71 ล้านบาท.