แฟลช กรุ๊ป แตกบริษัทลุยพัฒนา AI อัจฉริยะเชื่อมชีวิต-การทำงานไร้รอยต่อ
กลุ่มธุรกิจแฟลช (Flash Group) เปิดตัว แฟลช เอไอ (Flash AI) บริษัทพัฒนาด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อสนับสนุนการทำงาน และการใช้ชีวิตด้วยการนำระบบ AI เข้ามาจัดการกับการทำธุรกิจในรูปแบบต่างๆ เพื่อรองรับโลกในยุคที่ E-Commerce Ecosystem มีบทบาทกับมนุษย์
แฟลช เอไอ (Flash AI) ก่อตั้งขึ้นด้วยแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อตอบสนองการทำงาน และการใช้ชีวิตในแบบที่ให้ระบบ AI เข้ามาช่วยจัดการปัญหา ให้สามารถมีบทบาทกับการทำงานในวันที่หลายๆ องค์กรกำลังขับเคลื่อนสู่การสร้าง Business Model ใหม่ ทั้งยังมองหาผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ แฟลช ไอที จึงรวบรวมนักพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่เป็นมืออาชีพ และมากประสบการณ์ระดับโลกกว่า 400 คน สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีออกมา 4 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เทคโนโลยีการรู้จำใบหน้า, เทคโนโลยีการรู้จำข้อความ,เทคโนโลยีการรู้จำภูมิศาสตร์และเทคโนโลยีการรู้จำเสียงพูด ตลอดจนการให้บริการเชื่อมโยง API (Application Programming Interface) หรือช่องทางการเชื่อมต่อเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างซอฟต์แวร์ โดยแต่ละผลิตภัณฑ์มีจุดเด่นด้านความแม่นยำในการจดจำและจำแนกข้อมูลด้วยเป้าหมายหลักของการพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีทั้ง 4 นี้ เพื่อช่วยให้การทำงาน สะดวกรวดเร็ว ข้อมูลถูกต้องแม่นยำและปลอดภัย ซึ่งข้อมูลจะถูกจัดเก็บบนระบบคลาวด์ที่ลูกค้าผู้ใช้บริการสามารถเรียกดูข้อมูลด้วยตนเองได้อย่างรวดเร็ว
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีการรู้จำใบหน้า (Face Recognation) สามารถเปรียบเทียบความคล้ายคลึงกันของใบหน้า 2 ใบ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ เหมาะสำหรับการสแกนใบหน้าเพื่อเข้า-ออกงาน แทนการตอกบัตร หรือเข้าออกประตู แทนการใช้รหัสตัวเลขหรือตัวอักษร สะดวกต่อการใช้งาน ทั้งยังลดการสัมผัสอุปกรณ์โดยตรง นอกจากนี้ ระบบการรู้จำใบหน้าสามารถนำไปใช้ในการเปรียบเทียบรูปถ่ายกับบัตรประชาชนว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ เหมาะสำหรับการดำเนินธุรกรรมทางการเงิน หรือ การส่งเอกสารเพื่อเคลมประกันภัย ด้วยสามารถแปลงข้อมูลตัวอักษรในรูปภาพได้อย่างแม่นยำถึง 99.78% นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี Liveness detection SDK เพื่อใช้ในการพิสูจน์ตัวตนด้วยพฤติกรรมเช่น บุคคลที่ถูกตรวจสอบต้องใช้กล้องโทรศัพท์กะพริบตา ส่ายศีรษะซ้าย ขวา พยักหน้าขึ้นลง ตามคำส้่งของ ระบบ SDK ระบบจะพิสูจน์ความเป็นบุคคลผ่านภาพที่ได้เก็บ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าว เหมาะสำหรับใช้ยืนยันตัว การเปิดบัญชีการเงินทางไกล การเช็คอิน หรือสแกนใบหน้าเพื่อเข้าออก-งาน ด้วยเช่นกัน
สำหรับเทคโนโลยีการรู้จำข้อความ (Text Recognition) เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้การทำงานสะดวกยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการแปลงไฟล์ภาพเอกสาร ให้เป็นไฟล์ข้อความโดยอัตโนมัติ อาทิ การรู้จำข้อมูลบัตรประชาชน（OCR บัตรประชาชน） ใบอนุญาตขับขี่(OCR ใบอนุญาตขับขี่) สมุดบัญชีธนาคาร(OCR สมุดบัญชีธนาคาร ) ช่วยให้ยืนยันตัวตนได้รวดเร็ว บันทึกข้อมูลได้แม่นยำ สามารถดำเนินงานด้านธุรกรรมการเงินอิเล็กทรอนิกส์ในระยะทางไกล ลดกระบวนการทำงานที่อาจมีความล่าช้าและการคีย์ข้อมูลผิดพลาด ตลอดจนการรู้จำหนังสือรับรองการจดทะเบียน(OCR สือรับรองการจดทะเบียน) ช่วยให้สามารถตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ประกอบการ บริการทางการเงินของบริษัท
นอกจากนี้ยังมีอีก 2 ผลิตภัณฑ์ คือ เทคโนโลยีการรู้จำภูมิศาสตร์( AI Geography) ที่มีความสามารถในการจดจำข้อมูลที่อยู่ และแปลงออกมาเป็นพิกัด ถนนหนทาง ตำบล อำเภอ จังหวัด ซึ่งเทคโนโลยีนี้ ได้นำมาใช้งานภายในของแฟลชเองเพื่อการประมวลผลเส้นทางการขนส่งพัสดุไปยังผู้รับได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้การบริหารจัดการข้อมูลระหว่างคลัง สาขาต้นทาง และสาขาปลายทางเชื่อมโยงถึงกันและสามารถตรวจสอบได้ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ 4 คือ เทคโนโลยีการรู้จำเสียงพูดและแปลงออกมาเป็นตัวอักษร (Automatic Speech Recognition) เหมาะสำหรับทดสอบคุณภาพเสียงบันทึก บันทึกการประชุมและแปลงออกมาเป็นไฟล์ข้อความ ซึ่งสามารถแปลงไฟล์เสียงได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย
ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีทั้ง 4 ของ Flash AI ได้แก่ เทคโนโลยีการรู้จำใบหน้า, เทคโนโลยีการรู้จำข้อความ, เทคโนโลยีการรู้จำภูมิศาสตร์ และเทคโนโลยีการรู้จำเสียงพูด ตลอดจนการให้บริการเชื่อมโยง API (Application Programming Interface เปิดลงทะเบียนทดลองใช้งานฟรี ได้ทางเว็บไซต์ https://www.flashsoft.ai