7 กุมภาพันธ์ 2565: AIS ประกาศผลประกอบการปี 2564 โดยรวมยังคงสามารสร้างการเติบโตได้ในทุกมิติ ท่ามกลางสถานการณ์และข้อจำกัดที่ท้าทาย ทำให้รายได้รวมอยู่ที่ 181,333 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 4.9 กำไรสุทธิ 26,922 ล้านบาท ด้วยความทุ่มเทของบุคลากรกว่า 12,000 คน ในการยกระดับคุณภาพการให้บริการ คุณภาพของโครงข่ายสัญญาณ เพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ให้กับคนไทย รวมถึงการนำศักยภาพของ 5G ด้วยการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่แข็งแรงเข้าสนับสนุนการเติบโตของภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะภาคการผลิต และภาคอุตสาหกรรมที่เป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ
สำหรับปี 2565 เตรียมทุ่มงบลงทุนกว่า 30,000 – 35,000 ล้านบาท เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการด้านโครงข่ายรองรับการเติบโตของลูกค้าในปีนี้อย่างต่อเนื่อง
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า สถานการณ์ในปี 2564 เป็นอีกหนึ่งปีที่เราต้องเผชิญกับข้อจำกัดและความท้าทายอย่างมาก แต่สำหรับ AIS เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำงานเพื่อนำศักยภาพของโครงข่ายคุณภาพมาสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มายกระดับการทำงานของภาคธุรกิจ ภาคการผลิตและภาคอุตสาหกรรม จะเห็นได้ว่าในปีที่ผ่านมา AIS สามารถสร้าง Digital Ecosystem ที่มีความสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่หลากหลายทั้งระดับโลก และระดับ Local เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันแบบสอดประสาน ทำให้ผลงานในปี 2564 อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เป็นผลมาจากความมุ่งมั่น ทุ่มเทของคน AIS ที่มีความเข้าใจการทำงานในฐานะผู้นำตลาดที่ต้องให้ความสำคัญกับการเติบโตในทุกมิติทั้งคุณภาพและงานบริการที่เหนือกว่า
สำหรับผลประกอบการในปี 2564 รายได้รวม อยู่ที่ 181,333 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 4.9 เมื่อเทียบกับปีก่อน ในส่วนกำไรสุทธิ26,922 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.9 เทียบกับปีก่อน ในส่วนของต้นทุน AIS ยังลงทุนขยายโครงข่าย 5G/4G อย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมความเป็นผู้นำ และการเข้ารับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพิ่มเติมในปีนี้ (ใบอนุญาต 700MHz และ 26GHz) ส่งผลให้ต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้น 4.5 เทียบกับปีก่อน แต่จากการบริหารต้นทุนที่ดีในส่วนของค่าใช้จ่ายด้านการขายและบริหาร ที่ลดลงร้อยละ 11 จากปีก่อน ส่งผลให้เอไอเอส EBITDA อยู่ที่ 91,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 จากปีก่อน อีกทั้ง AIS ยังคงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรม ซึ่งจะจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการครึ่งปีหลังที่ 4.24 บาทต่อหุ้น ในวันที่ 19 เมษายน 2565 โดยผลการดำเนินงานแยกตามรายธุรกิจดังนี้
“เราได้เตรียมวางงบประมาณกว่า 30,000 – 35,000 ล้านบาท เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการด้านโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง รองรับโอกาสและการเติบโตในแง่ของผู้ใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการมองภาพใหญ่ของประเทศที่ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีที่แข็งแรง เพื่อให้ภาคส่วนต่างๆ ใช้เป็นจุดแข็งของประเทศในการแข่งขันและดึงดูดนักลงทุน ซึ่งเป็นสิ่งที่ AIS มุ่งมั่นทำมาอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้นำ” นายสมชัย กล่าวทิ้งท้าย.