AIS ขานรับโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG Economy

19 พ.ค. 2565 | 12:10 น.
อัปเดตล่าสุด :19 พ.ค. 2565 | 19:12 น.

AIS ขานรับโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG Economy ชูเทคโนโลยีบล็อกเชนสร้างต้นแบบ บริหารจัดการสิ่งแวดล้อม พร้อมนำศักยภาพโครงข่ายอัจฉริยะ ขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน

19 พฤษภาคม 2565 นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวในระหว่างการเข้าร่วมงาน  "Better Thailand Open Dialogue ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม" ว่า ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล เรามีเป้าหมายที่เป็นหัวใจหลักของการทำงานที่จะมุ่งมั่นนำเทคโนโลยีจากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อสนับสนุนประเทศในทุกทาง โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันแนวคิดของ BCG (Bio, Circular, Green) Economy : เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ถูกนำมาประยุกต์ใช้

 

เพื่อส่งเสริมให้เกิด โมเดลเศรษฐกิจที่นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ไปยกระดับความสามารถในการแข่งขัน หรือ บริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ  โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลสามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้อย่างดี

ดังนั้น ในงานนี้เอไอเอสจึงตอกย้ำแนวคิด "AIS The Sustainable Future" ในการเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน มุ่งสร้างคุณค่าอย่างสอดรับกับ BCG Economy  โดยเฉพาะนวัตกรรมในมิติด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาและเป็นสื่อกลางในการสร้างความร่วมมือให้กับทุกภาคส่วน

 

มีเป้าหมายสำคัญ คือ ทำให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านเทคโนโลยีหลัก อาทิ 5G , IoT , Blockchain และ Cloud มาขยายผลเพื่อสร้างนวัตกรรมต้นแบบ ต่างๆ อาทิ

 

  • E-Waste Blockchain โครงการต้นแบบที่นำความโดดเด่นของ Blockchain ที่มีความปลอดภัยสูงมาปรับใช้ โดยจะเริ่มนำมาใช้กับโครงการคนไทยไร้ E-Waste ซึ่งจะสามารถตรวจสอบได้ว่า ใครบ้างเป็นคนทิ้ง จุดรับฝากที่นำไปทิ้ง รวมถึงการนำไปคำนวณปริมาณคาร์บอนเครดิต
  • E-Waste Show จากความร่วมมือระหว่าง AIS และ  WMS ในการนำ E-Waste สู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล และขยายผลสู่การจัดทำเหรียญรางวัลประวัติศาสตร์เหรียญแรกของไทยที่ทำมาจากขยะอิเล็กทรอนิกส์

 

  • ECOSPACE นวัตกรรมอุปกรณ์ตรวจจับไฟป่า ผ่านเซนเซอร์วัดฝุ่น PM , อุณหภูมิ , ความชื้น และก๊าซCarbon monoxide (CO) ผ่านสัญญาณดาวเทียมที่ร่วมมือกับ University of Tokyo ผสมผสานกับ 5G/4G ของ AIS ผ่าน IoT ซึ่งสามารถคว้ารางวัล จากการแข่งขันประกวดนวัตกรรมทีม Startup จากรายการ S-Booster 2020 ที่จัดโดย Cabinet Office ของประเทศญี่ปุ่น

 

การขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อสร้างนวัตกรรมสู่ความยั่งยืน ถือเป็นอีกก้าวเดินที่สำคัญสู่การเป็น Cognitive Telco หรือองค์กรอัจฉริยะที่พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมที่จะนำพาประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีเสถียรภาพ นายสมชัย กล่าวทิ้งท้าย