AIS ยืนยัน พร้อมปฏิบัติตาม กฎหมาย PDPA - พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

27 พ.ค. 2565 | 06:31 น.
อัปเดตล่าสุด :27 พ.ค. 2565 | 13:38 น.

AIS ยืนยัน พร้อมปฏิบัติตาม กฎหมาย PDPA - พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตอกย้ำภารกิจคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลลูกค้า และ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ขั้นสูงสุดตามมาตรฐานสากล

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า  AIS ยืนยันความพร้อมต่อกระบวนการทำงาน รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ให้กับบุคลากรภายในองค์กร คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจและลูกค้าถึงความสำคัญในการคุ้มครองและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดรับกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Act) หรือ กฎหมาย PDPA ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565

 

 

โดย AIS ได้เพิ่มมาตรการเพื่อกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ จัดลำดับชั้นความลับของข้อมูลโดยนำเครื่องมือทางดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้งานทั้งองค์กร รวมถึงได้ดำเนินการแจ้งประกาศความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และสื่อสารให้ลูกค้าทราบถึงการปฏิบัติต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ วัตถุประสงค์ของการเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล มาตรการการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล สิทธิของลูกค้าต่อข้อมูลส่วนบุคคล และสร้างองค์ความรู้ขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย PDPA ในมิติต่างๆ

 

 

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม

"ในฐานะที่ AIS เป็นผู้นำด้านการให้บริการดิจิทัลที่มีลูกค้ามากกว่า 44.6 ล้านเลขหมาย รวมถึงกลุ่มลูกค้าองค์กรตั้งแต่ระดับผู้ประกอบการ SMEs วันนี้ เอไอเอส ขอยืนยันความพร้อมและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ต่อการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวทางของกฎหมาย PDPA ที่จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในทำงานเพื่อการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า รวมถึงความปลอดภัยด้านไซเบอร์ตามมาตรฐานสากล ด้วยการใช้ศักยภาพของโครงข่ายอัจฉริยะในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเข้ามาสนับสนุน เพื่อให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ตามแผนการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน และในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลของประเทศ ที่จะร่วมกันปกป้อง สร้างการรับรู้ ตลอดจนเสริมภูมิคุ้มกันด้านการใช้งานดิจิทัลอย่างแข็งแกร่ง เพื่อให้การเดินหน้าของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปราศจากซึ่งอุปสรรคและความเสี่ยงใดๆ” นางสายชล กล่าวทิ้งท้าย