นับถอยหลังเทศกาลสงกรานต์ 2566 เหลืออีกไม่กี่วันเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ไทยในวันที่ 13-16 เมษายน 2566 หลังจากการแพร่ระบาดโควิด 19 ลดลง
ล่าสุด ทรู ดีแทค ได้เปิดอินไซต์ของข้อมูลที่น่าสนใจ และเทรนด์สุดฮิตที่ชาวโซเชียลค้นหาและแชร์ข้อมูลกันในโลกออนไลน์ พร้อมเผยเคล็ดลับการใช้ชีวิตสนุกทุกไลฟ์สไตล์ ที่ไม่ว่าคุณจะกิจกรรมใด อยู่ที่ไหน สงกรานต์ปีนี้ก็จะมีทรูที่อยู่ดูแลทุกคน
ช่วงเดือนเมษายน 2566 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยกว่า 1 ล้านคน โดย ทีมวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน (True Data Intelligence & Research) พบว่า จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามากว่า 1,874,753 คน
5 อันอับสุดฮิตชาวโซเชียลสงกรานต์ 2566 ดังนี้
จากข้อมูล Social Listening Insight ได้เจาะลึกให้เห็นกิจกรรมที่มาแรงในช่วงสงกรานต์ปีนี้ โดยแบ่งข้อมูลออกเป็น 5 อันดับ ตามความสนใจของชาวโซเชียล
อันดับที่ 1 สายแฟชั่น มาแรงถึงที่สุด 44 % แน่นอนว่าช่วงเวลาแห่งความสนุกสดใสแบบนี้ ชาวโซเชียลต่างตื่นเต้นกับการแต่งตัวให้เข้ากับเทศกาลเป็นที่สุด โดยมีการพูดถึงเสื้อลายดอกถึง 91% ต่อมาคือเสื้อฮาวาย 11% กางเกงขาสั้น 3% และสุดท้ายคือ กางเกงช้างที่อาจกลายเป็นไอเท็มสำคัญของเทศกาลนี้ได้ โดยมีชาวเน็ตพูดถึง 2% ใครอยากแต่งตัวให้เข้ากับเทรนด์ ต้องไม่พลาดจัดให้ครบ!
อันดับที่ 2 สายเที่ยว มาแรงไม่แพ้กันในสัดส่วน 40 % คนทำงานส่วนใหญ่ได้หยุดถึง 4-5 วันติดต่อกัน สายเที่ยวก็ต้องหาทริปใกล้-ไกลไปพักผ่อนให้จุใจกันเต็มที่ จากข้อมูลพบว่า ชาวโซเชียลเตรียมตัวเที่ยวในประเทศถึง 64% ส่วนอีกกลุ่มใช้โอกาสนี้ไปเที่ยวต่างประเทศถึง 36%
อันดับที่ 3 สายติดบ้าน ตามติดมาที่ 9% ชาวโซเชียลกลุ่มนี้ ใช้โอกาสช่วงหยุดยาวสงกรานต์ หลบอากาศร้อนอยู่บ้าน โดยเมื่อเจาะลงไปในรายละเอียดก็จะเห็นกิจกรรมที่น่าสนใจ ต่อไปนี้ ชาวโซเชียลเลือกนอนพักผ่อนอยู่บ้านเยอะที่สุด มีสัดส่วนมากถึง 45% ต่อมาคือกลุ่มที่อยู่บ้านโดยให้เหตุผลต่าง ๆ ว่าไม่อยากออกไปเจอคนเยอะ ไม่ชอบอากาศร้อน โดยคิดเป็น 34% นอกจากนี้ยังมีชาวโซเชียลที่บอกว่าทำงานในช่วงสงกรานต์มีถึง 11% อีกกลุ่มคือทำงาน Part-time 5% สำหรับ 2 กลุ่มท้ายที่มีจำนวนเท่ากันคือ นอนเล่นเกม 3% และนอนดูหนัง 3%
อันดับที่ 4 สายมู เทรนด์นี้ต้องมา โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 7% ชาวโซเชียลสายมูเตรียมเดินสายทำบุญกันคึกคักในเทศกาลนี้ ข้อมูลเผยให้เห็นว่า ส่วนใหญ่แล้วสายมูจะเดินสายเข้าวัดทำบุญกันถึง 35% ตามมาติด ๆ คือ เดินสายไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มากถึง 30% ตามมาด้วยการตักบาตร 19% อีกสามกิจกรรมที่สัดส่วนเท่ากันคือ ทำบุญบ้าน 11% ไหว้บรรพบุรุษ 11% และกิจกรรมอื่น ๆ อีก 11%
อันดับที่ 5 สายห่วงใย ปลอดภัยไว้ก่อน มีสัดส่วนอยู่ที่ 1% จากข้อมูลพบว่าชาวโซเชียลพูดถึงประเด็นนี้กันน้อยมาก โดยมีเทรนด์ใน 2 ประเด็นคือ รวมเบอร์สายด่วนฉุกเฉิน และประกันอุบัติเหตุ
หมายเหตุ