Redmi Note 12 Seires ทัพใหญ่เสียวหมี่ลุยสมาร์ทโฟนระดับกลาง

มร. อเล็กซ์ ถัง ผู้จัดการ เสียวหมี่ ประเทศไทย กล่าวว่า “เสียวหมี่มีความตั้งใจที่จะส่งมอบนวัตกรรมให้กับทุกคนในทุกระดับ โดยต้องการให้ผู้คนทั่วโลกมีชีวิตที่ดีขึ้นผ่านเทคโนโลยีของเรา สำหรับเป้าหมายของ เสียวหมี่ ประเทศไทย ปีนี้เรามุ่งหวังที่จะยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าผ่านการขยายประเภทผลิตภัณฑ์ และยกระดับช่องทางการจัดจำหน่ายรวมถึงศูนย์บริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้าชาวไทยทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ดีจากผลิตภัณฑ์และบริการของเราเพิ่มมากขึ้น

การเปิดตัวสมาร์ทโฟน Redmi Note 12 Series ในประเทศไทย ถือเป็นการเพิ่มโอกาสและทางเลือกให้กับผู้บริโภคชาวไทยให้ได้รับนวัตกรรมและเทคโนโลยีในราคาที่สมเหตุสมผล และเราเชื่อว่าการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Redmi Note 12 Series ที่พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Live Vivid’ หรือ ‘เติมชีวิตให้มีสีสัน’ นี้จะช่วยเพิ่มสีสันให้ตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางมากขึ้นด้วยเช่นกัน”

นอกจากนี้ เสียวหมี่ ประเทศไทย ยังดึง ‘ฟิล์ม ธนภัทร’ นักแสดงหนุ่มสุดฮอต มาเป็นพรีเซนเตอร์คนล่าสุดของ Redmi Note 12 Series เพื่อถ่ายทอดไลฟ์สไตล์และสร้างการจดจำให้แก่ผลิตภัณฑ์ได้ดียิ่งขึ้น
 

สมาร์ทโฟนรุ่นโปร Redmi Note 12 Pro+ 5G และ Redmi Note 12 Pro 5G

Redmi Note 12 Pro+ 5G และ Redmi Note 12 Pro 5G มอบประสบการณ์การใช้งานที่พาคุณเติมสีสันให้กับชีวิตขึ้นไปอีกขั้น โดย Redmi Note 12 Pro+ 5G2 โดดเด่นด้วยกล้องหลักความละเอียด 200MP ในขณะที่ Redmi Note 12 Pro 5G มาพร้อมเซ็นเซอร์ IMX766 ขนาดใหญ่ สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นใช้หน้าจอ Flow AMOLED 120Hz และชิปเซ็ตประสิทธิภาพสูง MediaTek Dimensity 1080 มอบประสิทธิภาพ 5G ที่ดีเยี่ยม สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับความเร็วในการชาร์จระดับเรือธงด้วยพลังชาร์จ 120W HyperCharge3 ใน Redmi Note 12 Pro+ 5G และพลังชาร์จ 67W ชาร์จเร็วใน Redmi Note 12 Pro 5G และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh (typ) ที่ให้คุณสามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้นไม่ว่าจะใช้เสพคอนเทนต์หนักขนาดไหนก็ตาม

Redmi Note 12 Pro+ 5G และ Redmi Note 12 Pro 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Polar White และ Sky Blue โดยพร้อมให้ลูกค้าสั่งจองล่วงหน้าในระหว่างวันที่ 29 เมษายน 2566 - 6 พฤษภาคม 2566 ซึ่งลูกค้าที่สั่งจองในช่วงเวลาดังกล่าวจะได้รับกระเป๋าเดินทาง Luggage และ VIP Service Card มูลค่ารวม 6,780 บาท1 เป็นของสมนาคุณพิเศษ โดยสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนี้จะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม

Redmi Note 12 Pro+ 5G รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 14,990 บาท

Redmi Note 12 Pro 5G รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 12,990 บาท

Redmi Note 12 Pro 5G รุ่นความจุ 6GB+128GB วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท

โดยวางจำหน่ายเฉพาะที่ผู้ให้บริการเครือข่าย AIS เท่านั้น

สมาร์ทโฟน Redmi Note 12 5G และ Redmi Note 12

Redmi Note 12 5G และ Redmi Note 12 ต่างมอบประสิทธิภาพและประสบการณ์ความบันเทิงที่ดียิ่งขึ้น ด้วยหน้าจอแสดงผล AMOLED 120Hz สุดลื่นไหล โดย Redmi Note 12 5G นั้นขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 4 Gen 1 ขณะที่ Redmi Note 12 ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 685 สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมาพร้อมการชาร์จเร็ว 33W และแบตเตอรี่ 5,000mAh (typ) ที่ใช้งานได้ยาวนาน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้องหลัง AI สามตัวที่มีฟีเจอร์และฟิลเตอร์ที่มีประโยชน์อีกมากมายในราคาสุดคุ้มที่ทุกคนจับต้องได้

Redmi Note 12 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Onyx Gray, Ice Blue, Forest Green และ Redmi Note 12 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Onyx Gray, Ice Blue, Mint Green โดยสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2566 เป็นต้นไป ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 12 5G หรือ Redmi Note 12 ในระหว่างวันที่ 22 เมษายน 2566 - 31 พฤษภาคม 2566 รับฟรีของสมนาคุณพิเศษ! เมื่อซื้อ Redmi Note 12 5G รับฟรี กระเป๋า Duffle Bag มูลค่า 1,490 บาท1 และเมื่อซื้อ Redmi Note 12 รับฟรี ลำโพง Soundbar Speaker มูลค่า 990 บาท1

Redmi Note 12 5G รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท

Redmi Note 12 5G รุ่นความจุ 6GB+128GB วางจำหน่ายในราคา 8,499 บาท

Redmi Note 12 รุ่นความจุ 6GB+128GB วางจำหน่ายในราคา 6,699 บาท

 นาฬิกาอัจฉริยะ Redmi Watch 3 ให้คุณมั่นใจทุกการสวมใส่

Redmi Watch 3 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.75 นิ้ว ซึ่งใช้งานได้แม้ในสภาวะแสงแดดจ้า กรอบของตัวเรือนสร้างขึ้นด้วยการเคลือบโลหะมันวาวสูงโดยใช้เทคโนโลยี NCVM ซึ่งให้รูปลักษณ์และความรู้สึกระดับพรีเมียมพร้อมหน้าปัดนาฬิกาในตัวกว่า 200 แบบ4 พร้อม GPS ในตัวและระดับการกันน้ำ 5ATM5 และรองรับระบบการระบุตำแหน่งด้วยดาวเทียมหลัก 5 ระบบและโหมดกีฬา 121 โหมด ซึ่งรวมถึงโหมดกีฬาที่จดจำอัตโนมัติ 6 โหมด พร้อมด้วยโหมดวัดออกซิเจนในเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ การนอน และฟังก์ชั่นตรวจสอบสุขภาพอื่นๆ มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 12 วันในการใช้งานทั่วไป6 ทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพที่เสถียรโดยไม่ต้องกังวลใดๆ นาฬิกายังมาพร้อมกับลำโพง HD และไมค์ตัดเสียงรบกวน ช่วยให้สามารถคุยโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth® ได้ราบรื่นและชัดเจนอย่างมาก

Redmi Watch 3 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำและสีงาช้าง วางจำหน่ายในราคา 3,490 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Watch 3 ในระหว่างวันที่ 22 เมษายน 2566 - 31 พฤษภาคม 2566 สามารถซื้อได้ในราคาพิเศษเพียง 2,990 บาทเท่านั้น!