ทางธนาคารประชาชนจีน (PBoC) ซึ่งเป็นธนาคารกลางของประเทศจีนได้เริ่มทำการทดลองใช้หยวนดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2020 ในหลายเมือง แต่การใช้งานปัจจุบันนั้นเรียกได้ว่าค่อยเป็นค่อยไปครับ เพราะตัวหยวนดิจิทัลเองต้องมาแข่งขันกับซูเปอร์แอปยอดนิยมอย่าง WeChat Pay และ Alipay จากภาคเอกชน ซึ่งผู้บริโภคในประเทศจีนจะคุ้นเคยมากกว่า และที่สำคัญคือร้านค้าแทบจะทุกร้านในประเทศก็รับชำระผ่านสองระบบจากเอกชน แต่ร้านค้าส่วนมากยังไม่ได้รับชำระด้วยหยวนดิจิทัลครับ
แต่ก็ใช่ว่าหยวนดิจิทัลจะดันไม่ขึ้นจริง ๆ ในช่วงสิ้นปี 2022 ทางธนาคารกลางของจีน (PBoC) ได้เพิ่มฟีเจอร์ในการส่งเงินผ่านแอปหยวนดิจิทัล ซึ่งมาในรูปแบบซองสีแดง หรือ “อั่งเปาดิจิทัล” และในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอย่าง Meituan ก็จัดแคมเปญแจกอั่งเปาผ่านระบบหยวนดิจิทัลครับ ซึ่งก็น่าสนใจที่ภาคเอกชนเข้ามาร่วมผลักดันหยวนดิจิทัล
ส่วนการใช้ของภาครัฐนั้นค่อนข้างชัดเจนกว่า อย่างในสัปดาห์นี้เมือง Changshu ได้ประกาศว่าจะเริ่มจ่ายค่าจ้างสำหรับข้าราชการและลูกจ้างของรัฐในเมืองผ่านหยวนดิจิทัลตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไปครับ
สำหรับเมืองไทยแล้ว ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้มีการทดลองทำ CBDC ทั้งแบบที่ใช้บล็อกเชนและไม่ใช้บล็อกเชน แบบข้ามประเทศและแบบรีเทล ซึ่งจะนำมาใช้งานแทนแอปหรือระบบอื่น ๆ ที่มีอยู่แล้วก็ต้องรอดูกันต่อไป แต่ถ้าเราดูตัวอย่างของหยวนดิจิทัลแล้วก็จะเห็นได้ว่าทางจีนก็เน้นวิธีทดลองใช้แบบไม่รีบผลักดันให้มีการใช้งานทั่วประเทศพร้อมกันแต่ค่อย ๆ ขยายไปตามเมืองต่าง ๆ แทนครับ
นายพีรเดช ตันเรืองพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัพบิต เอ็กซ์เชนจ์ (ประเทศไทย) จำกัด