จากกรณีที่เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา ประกาศจัดตั้ง สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) แห่งแรกของประเทศไทย มุ่งขับเคลื่อนให้เกิดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ล่าสุด ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) เรียกโดยย่อว่า สขญ. มีชื่อภาษาอังกฤษว่า
Big Data Institute (Public Organization) หรือ BDI ถือเป็นสถาบันด้านข้อมูลขนาดใหญ่แห่งแรก
ของประเทศไทย มีบทบาทและหน้าที่สำคัญ ดังนี้
1.จัดทำยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ ผลักดันให้เกิด
การพัฒนาศักยภาพและยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
2.ส่งเสริม ประสาน และให้บริการแก่หน่วยงานของรัฐและเอกชน เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์
จากข้อมูลขนาดใหญ่ในการแก้ไขปัญหา เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการให้บริการ หรือการตัดสินใจในการกำหนดนโยบาย เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
3.ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ รวมทั้งให้บริการคำปรึกษาหรือเป็นที่ปรึกษาด้านข้อมูล
ขนาดใหญ่และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องแก่หน่วยงานของรัฐและเอกชน
4.ส่งเสริมหน่วยงานของรัฐและเอกชนในการสร้างนวัตกรรมด้านข้อมูลขนาดใหญ่ และเทคโนโลยี
ที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรฐานในระดับสากล เพื่อเพิ่มศักยภาพการบูรณาการและวิเคราะห์ข้อมูล
ขนาดใหญ่ของประเทศ
5.ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาธุรกิจด้านการวิเคราะห์ และใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่
ของประเทศ
6.ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาองค์ความรู้และบุคลากรของประเทศด้านการวิเคราะห์ข้อมูล
ขนาดใหญ่
7.ดำเนินการอื่นเพื่อพัฒนาข้อมูลขนาดใหญ่ของประเทศตามที่กฎหมายกำหนด หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย เพื่อบูรณาการการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ สถาบันอาจเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อให้หน่วยงานของรัฐสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันหรือร่วมดำเนินการกับสถาบัน
“ที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดย ดีป้า มุ่งขับเคลื่อนให้เกิดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญระดับชาติโดยการดำเนินงานของ สถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (GBDi) หน่วยงานในสังกัด ด้วยการทำงานของกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยบูรณาการการทำงานไปแล้วกว่า 100 โครงการกับ 67 หน่วยงาน พร้อมกันนี้ยังมีการพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ (Health Link) ระบบรวบรวมข้อมูลด้านการท่องเที่ยว (Travel Link) ระบบเชื่อมโยงข้อมูลเด็กและเยาวชน (Youth Link) และระบบเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (CO-Link) เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับประชาชนไทย ซึ่งการยกระดับสู่ BDI ในครั้งนี้จะเป็นกำลังสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศด้วยข้อมูลขนาดใหญ่อย่างเป็นรูปธรรม”
ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว