KBTG ตั้งฐานทัพไอทีในเวียดนาม เสริมทัพบุคลากรรับบริการดิจิทัลกสิกร

23 มิ.ย. 2566 | 10:14 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มิ.ย. 2566 | 10:31 น.

KBTG จัดตั้งฐานทัพไอทีสาขาที่ 3 ณ ประเทศเวียดนาม เฟ้นหาบุคลากรเสริมทีม เพื่อรองรับการขยายบริการดิจิทัลของกสิกรไทย พร้อมผลักดันสู่การเป็นที่หนึ่งด้านเทคฯ ในภูมิภาค

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจใน AEC+3 มีความสำคัญในการเป็นตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยประชากรวัยหนุ่มสาว และมีการขยายตัวของดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเติบโตต่อไปได้ในระยะข้างหน้า

KBTG ตั้งฐานทัพไอทีในเวียดนาม เสริมทัพบุคลากรรับบริการดิจิทัลกสิกร

ธนาคารจึงเดินหน้าขยายบริการในภูมิภาคเพื่อเชื่อมต่อโอกาสให้แก่ธุรกิจไทย และส่งมอบบริการให้แก่ลูกค้ารายย่อยและผู้ประกอบการในประเทศท้องถิ่น ด้วยการใช้กลยุทธ์การขยายธุรกิจออกไปสู่ภูมิภาคอาเซียนในรูปแบบธนาคารดิจิทัล (Regional Digital Expansion) ที่เน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เสริมทัพทีมงาน การลงทุนในสตาร์ทอัพ และกิจการในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจและเทคโนโลยี ส่งมอบบริการบนดิจิทัลสู่ผู้ใช้งานในท้องถิ่นได้อย่างคล่องตัวสูง ซึ่งจะทำให้ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารยุคใหม่แห่งภูมิภาค AEC+3  พร้อมเป้าหมายการเป็น 1 ใน 20 ธนาคารที่ดีที่สุดในประเทศเวียดนามได้ภายในปี 2570

นางวรนุช เดชะไกศยะ Executive Chairman กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า KBTG มีการพัฒนาการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองกลยุทธ์ของธนาคารกสิกรไทยในการขยายธุรกิจออกไปสู่ภูมิภาคอาเซียนในรูปแบบธนาคารดิจิทัล พร้อมรับมือกับความท้าทายในสถานการณ์ Talent War ในประเทศไทย KBTG จึงดำเนินการเชิงรุกอย่างต่อเนื่องเพื่อสรรหาบุคคลากรที่มีศักยภาพตรงความต้องการ เพื่อมารองรับธุรกิจของธนาคารทั้งในไทยและระดับภูมิภาค 

จากกลยุทธ์สรรหาบุคลากรจากต่างประเทศ พบว่าประเทศเวียดนามนั้น นอกจากมีบุคลากรทางด้านไอทีและมีนักศึกษาสาขา STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) เป็นอันดับต้น ๆ ของอาเซียนแล้ว ยังมีวัฒนธรรมการทำงานที่คล้ายคลึงกันกับประเทศไทย KBTG จึงได้จัดตั้ง KBTG Vietnam Company Limited หรือ KBTG Vietnam ขึ้นที่เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เพื่อรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีในการให้บริการของธนาคารกสิกรไทยทั้งในเวียดนามและในภูมิภาค

โดยบริษัท KBTG Vietnam ถือเป็นบริษัทสาขาที่ 2 ของ KBTG ในภูมิภาคอาเซียน และเป็นสาขาที่ 3 ในทวีปเอเชีย ถัดจาก KBTG ในไทย และบริษัท K-Tech ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดย KBTG คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนบุคลากรที่ต้องเข้ามาเสริมทีมเพิ่มขึ้น รวมกว่า 500 ตำแหน่งในอีก 3 ปีข้างหน้า และจะก้าวขึ้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับภูมิภาค (Regional Tech Company) ภายในปี 2568 ตามเป้าหมายที่วางไว้

ทั้งนี้ การที่ KBTG มีฐานทัพและบุคลากรมากฝีมือทั้งในประเทศไทย ประเทศจีน และประเทศเวียดนาม จะช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันของทั้ง 3 ประเทศ สามารถดึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญในแต่ละส่วนมาประกอบกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคนิค รวมถึงทักษะด้านต่างๆ ที่สำคัญ เช่น AI, Blockchain, Supply Chain, Coding Methodology ของ KBTG ให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว สามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบให้กับลูกค้าทั้งในไทย เวียดนาม และประเทศอื่นๆ ทั่วภูมิภาค 

 ด้านนายธนุสศักดิ์ ธัญญสิริ Managing Director บริษัท KBTG Vietnam กล่าวต่อว่า พันธกิจหลักของบริษัท KBTG Vietnam คือการพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Development) สร้างนวัตกรรมด้านการเงิน และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองการดำเนินธุรกิจของธนาคารกสิกรไทยและลูกค้าธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศไทย เวียดนาม และทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับท็อปของเวียดนามภายในปี 2568

สำหรับเป้าหมายของ KBTG Vietnam ในปี 2566 มุ่งเป้าไปที่การสรรหาบุคคลากรไอทีกลุ่มแรกจำนวน 200 คน เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับธนาคารกสิกรไทยและธุรกิจต่างประเทศ ร่วมสร้างและพัฒนาแอปพลิเคชัน K PLUS Vietnam ซึ่งเป็นบริการเรือธง (Flagship Product) ของธนาคารกสิกรไทย มีผู้ดาวน์โหลดใช้งานแล้วจำนวนกว่า 600,000 คน และจะเป็นแพลตฟอร์มบริการสำคัญที่ใช้รองรับการขยายฐานลูกค้าของธนาคารในประเทศด้วยเป้าหมายในปี 2566 กว่า 1.3 ล้านคน

นอกจากนี้ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการขยาย K PLUS ไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ส่งเสริมให้ KBTG Vietnam มีพื้นฐานในการส่งมอบซอฟต์แวร์ ด้วยหลักการ 3S คือ รวดเร็ว (Speed) เพิ่มขนาด (Scale) และยั่งยืน (Sustain) โดยมี Software Methodology ระดับโลกและ Tech Capability ที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับ KBTG ที่ไทย โดยนำกรณีศึกษาทั่วโลกมาประยุกต์ใช้ อีกทั้งยังจัดตั้งออฟฟิศ KBTG Vietnam สาขากรุงฮานอย เพื่อรองรับพนักงานที่อยู่ต่างเมืองและไม่สะดวกย้ายมาทำงานที่นครโฮจิมินห์ และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึง Tech Talents มากยิ่งขึ้น