พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภาผู้แทนราษฎรและกำหนดวันเลือกตั้งวันที่14 มีนาคม 2566 การลงพื้นที่หาเสียงของแต่ละพรรคเข้มข้นขึ้น ล่าสุด นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ ณ ที่ทำการพรรคชาติไทยพัฒนา เมื่อไม่นานมานี้ ก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคนัดแรก
หลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาและให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ว่า ได้มีการพูดคุยกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก่อนหน้านี้่แล้วว่า หากมีการยุบสภา หากยังมี ครม. อยู่ก็ต้องทำหน้าที่รัฐมนตรีอย่างมีประสิทธิภาพ แยกเรื่องการเมือง และการบริหารราชการแผ่นดินออกจากกัน
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือกระทรวงอื่น ๆ ก็ต้องทำงานเหมือนเดิม และขอให้เพื่อน ๆ ข้าราชการอย่าเพิ่งเกียร์ว่าง เพราะปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้ขึ้นอยู่กับการยุบสภา หรือการเลือกตั้ง
ส่วนการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี กับการหาเสียง นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่มีปัญหา และตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยเอางานการเมืองมาเกี่ยวข้องกับงานกระทรวงอยู่แล้ว และทุกครั้งที่ออกตรวจราชการ ก็เป็นการทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยว
อย่างเช่นการลงตรวจราชการที่เขตบางขุนเทียนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ได้แจ้งให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ เข้ามามีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือพรรคใดก็แล้วแต่ ยืนยันว่าไม่มีการพูดการเมือง ใส่เสื้อพรรค หรือพูดถึงการหาเสียงในเชิงใด ๆ ทั้งสิ้น
เมื่อถามว่าจะต้องกำชับสมาชิกพรรคในเรื่องนี้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ได้กำชับทุกคนในพรรค ว่าการเข้าร่วมงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานรื่นเริง งานบวช งานศพ หรืองานแต่งงาน อย่างตนเองที่ไปร่วมงานวัน อสม.แห่งชาติ ที่ จ.สุพรรณบุรี ก็ระมัดระวังตัวให้มากขึ้น เพราะเกรงว่าจะเข้าข่ายมหรสพ การจัดเลี้ยงก็ขอให้งดไปก่อน รวมถึงการขึ้นเวทีต่าง ๆ ก็ขอให้ระมัดระวังคำพูดไม่ให้เป็นการหาเสียง
เมื่อถามถึงยุทธศาสตร์ของพรรคในการเลือกตั้งปี 2566 นายวราวุธ ระบุว่า ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ก่อนยุบสภา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. หรือ อดีต ส.ส. ได้ทำงานในพื้นที่ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้กันอย่างเต็มที่ และมีผู้สมัครหน้าใหม่ คนรุ่นใหม่ และผู้ใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญงานการเมือง ก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่
ขณะนี้เหลือเวลาอีก 53 วันก่อนที่จะถึงวันที่ 14 พฤษภาคม ที่จะลงคะแนน ก็ขอให้ทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะวันรับสมัครรับเลือกตั้ง 3-7 เมษายน ทุกคนจะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม ดังนั้นวันที่ 31 มีนาคม พรรคจะประชุมใหญ่สามัญประจำปี เพื่อเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติม และปฐมนิเทศว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคทั่วประเทศ
ส่วนกระบวนการทำไพรมารีโหวต เพื่อคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายวราวุธ กล่าวว่า ได้เตรียมการไว้หมดแล้ว และถือว่าเป็นเรื่องดีที่มีการแก้ไขระเบียบไปบางส่วน ทำให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น "อย่างที่เรียนว่าการเขียนระเบียบกติกาใด ๆ ขึ้นมา คนเขียนไม่ได้ปฏิบัติ คนปฏิบัติไม่ได้เขียน ก็ต้องขอขอบคุณที่มีการแก้ไข ไม่เช่นนั้นช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงที่มีความโกลาหล หายังใช้กติกาแบบเดิม ซึ่งวันนี้ถือว่ามีความสะดวกมากขึ้น และสามารถดำเนินการได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ"
ส่วนเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่มีการไปร้องศาลปกครอง จะมีผลอย่างไรหรือไม่ นายวราวุธ ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ขอก้าวล่วงอำนาจศาล หากตัดสินไปอย่างไร ก็ให้เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้องดำเนินการแก้ไขต่อไป อย่างไรก็ตามในประเด็นเขตเลือกตั้งมีข้อท้วงติงมา กกต. ก็ควรจะรับไว้พิจารณา แต่สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา พื้นที่ต่าง ๆ ที่ได้กำหนดไว้ จนถึงนาทีนี้ก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ ที่จะไปท้วงติง และทำหน้าที่ของตนเองให้เต็มที่ เพื่อเข้าสู่วันลงคะแนนในวันเลือกตั้ง
เมื่อถามว่าการร้องศาลปกครอง มีการประเมินว่าอาจนำไปสู่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ นายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องนี้อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ และขณะนี้มีการประเมินสถานการณ์ออกมามากมาย และส่วนใหญ่ก็จะเป็นไปในทางลบ แต่ขณะนี้เรากำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้ง เปลี่ยนผ่านประเทศไทย ก็อยากให้มองไปในทางที่สร้างสรรค์ไว้ก่อน และเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด แต่หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นภายหน้า ก็ค่อยไปแก้ไขกัน เพราะเป็นปัญหาที่ทุกพรรคการเมืองเจอเหมือนกัน ไม่ใช่แค่พรรคการเมืองใด การเมืองหนึ่ง
นายวราวุธ ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียง จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.ยโสธร สุดสัปดาห์นี้ ว่า เป็นพื้นที่คาดหวังว่าจะได้พื้นที่เพิ่ม เพราะการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ภาคอีสาน ได้ ส.ส. 1 คน คือ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 1 พร้อมเปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 24 มีนาคมนี้ จะตั้งเวทีปราศรัยที่ จ.กาฬสินธุ์ วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม
ช่วงเช้าไปร่วมงานที่ จ.ร้อยเอ็ด และวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม จะเป็นการปราศรัยใหญ่ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ยโสธร และนอกจากภาคอีสาน ก็จะมีการประสานงานกับผู้สมัคร ส.ส. ในแต่ละพื้นที่ ว่าต้องการให้ไปทำกิจกรรมในลักษณะใด และยืนยันความพร้อมที่จะปักธงในทุกพื้นที่ ที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยตั้งเป้า ส.ส.เขตไว้ไม่ต่ำกว่า 12 เขต
เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ปักธงภาคอีสานครั้งนี้ จะสามารถหยุดแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าการนำเสนอของแต่ละพรรคจะโน้มน้าวประชาชนในแต่ละภาคที่มีความต้องการแตกต่างกันได้อย่างไร พรรคชาติไทยพัฒนา ก็คาดหวังว่านโยบาย "ว้าวไทยแลนด์" การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเปลี่ยนผ่านภาคการเกษตร เพื่อทำให้เงินในกระเป๋าประชาชนเพิ่มขึ้น ที่เป็นแนวทางที่ยั่งยืน จะจูงใจพี่น้องประชาชนได้
ส่วนความเห็นกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นสิทธิของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เข้ามาทำบทบาททางการเมืองมากขึ้น และการเลือกตั้งที่จะถึงก็จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าเข้ามาทำงานการเมืองเต็มตัว
ไม่ได้เข้ามาเป็นเพียงแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เป็นกำลังใจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ในการทำงาน เช่นเดียวกับทุกพรรค แม้กระทั่งพรรคชาติไทยพัฒนา แกนนำพรรคก็จะอยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับต้น ๆ รวมถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งขณะนี้มีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อครบ 100 คนแล้ว ส่วนการจัดลำดับก็จะต้องหารือกันในพรรคอีกครั้ง
สำหรับแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคชาติไทยพัฒนา จะต้องอยู่ในลำดับที่ 1 หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่าจะต้องหารือกันในพรรคอีกครั้ง หลังจากที่ประชุมใหญ่ให้การรับรองเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 31 มีนาคมนี้
เมื่อถามถึงการตั้งเป้า ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวราวุธ กล่าวว่า เฉพาะบัญชีรายชื่อไม่ต่ำกว่า 5 ที่นั่ง โดยจะลำดับความสำคัญ คือ การเติมเต็มความเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา และมีความเชี่ยวชาญ ความชำนาญที่หลากหลาย ซึ่งก็จะต้องมาพิจารณากันอีกครั้ง