การสู้ศึกเลือกตั้งดังกระหึ่มขึ้น แต่ละพรรคการเมือง โดยเฉพาะค่ายใหญ่ ต่างงัดกลเม็ดสาดสีสันดึงดูดใจประชาชน โดยเฉพาะนโยบายครองใจมากที่สุด คงหนีไม่พ้น “ประชานิยม” ที่จับต้องได้และมองว่าโดนใจมากที่สุด นอกจากมาตรการเยียวยา แจกเงิน แล้ว ยังมีโครงงการการจัดหาที่ดินทำกิน ทั้งที่ดินรัฐเขตป่า ส.ป.ก. และการเร่งรัดออกเอกสารสิทธิ์ ให้กับประชาชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต
ทั้งนี้เมื่อครั้ง นายนิพนธ์ บุญญามณีเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดินได้ขับเคลื่อนนโยบายเปลี่ยนน.ส.3 เป็นโฉนดที่ดิน โดยจัดทำแผนเดินสำรวจออกโฉนดระยะยาวครอบคลุมทั่วประเทศ 10 ปี นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2565-2574 จำนวนเกือบ 1 ล้านแปลง วงเงิน 3,467 ล้านบาท จากทั้งหมด 3-4 ล้านแปลงที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่เนื่องจากงบประมาณมีจำกัดจึงดำเนินการลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
ล่าสุด ในการลุยศึกเลือกตั้งครั้งนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ได้ยืนยัน ว่า พร้อมดำเนินการตามนโยบายออกกรรมสิทธิ์ทำกินในที่ดินของรัฐให้เกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ อย่างทั่วถึงโดยชูหัวใจสำคัญ “ออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลงใน 4 ปี” เพื่อแก้ปัญหาของประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินอยู่ในที่รกร้างว่างเปล่า ซึ่งประชาชนพอใจและอยากได้เอกสารสิทธิ์ประเภทโฉนดเป็นของตนเอง หลังประชาชนให้การตอบรับโครงการที่ผ่านมา
สอดรับกับนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ สะท้อนว่า ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของประชาชนเป็นอีกเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก จากปัญหาที่ดินทำกิน การขีดเขตป่า เขตอุทยาน การกำหนดพื้นที่สาธารณะ ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ ทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน การเร่งพิสูจน์สิทธิในที่ดินทำกินด้วยความจริงใจและเป็นธรรม
เพื่อนำไปสู่การออกโฉนดให้กับประชาชน รวมถึงการยกเลิกและแก้ไขกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบเพื่อให้เกิดความยั่งยืน นำไปสู่การออกโฉนดที่ดินให้กับประชาชนต่อไป ตั้งเป้าหมายออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลง ภายใน 4 ปี ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้ดำเนินการสำเร็จมาแล้วส่วนหนึ่งและจะสานต่อเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ให้มากที่สุดต่อไป
ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ ก็จะมีนโยบายออกกรรมสิทธิ์ทำกินให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืน ไม่ต้องเกิดความกังวล ว่าจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ ปัญหาเหล่านี้ไม่ควรส่งต่อจากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่ง พรรคมีนโยบายชัดเจนในการแก้ปัญหาให้จบอย่างเป็นระบบ ซึ่งเคยทำสำเร็จมาแล้วในเรื่องนโยบาย “โฉนดชุมชน” ประชาชนพึงพอใจและเรียกร้องให้สานต่อ
ด้านพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หาเสียงเปิดเวทีพบปะประชาชนจังหวัดหนองคาย โดยระบุว่า ปัญหาที่ดินในประเทศไทย 62% เป็นที่ดินที่รัฐถือครอง ภายใต้การบริหารของกระทรวงถึง 8 กระทรวง ประเทศที่พัฒนาแล้วไม่มีที่ไหนเก็บที่ดินอยู่ในมือรัฐจำนวนมาก
หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลประชาชนทั่วประเทศได้ที่ดินเพิ่ม 10 ล้านไร่ จากปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 40 ล้านไร่ทั่วประเทศ หลังได้รับข้อร้องเรียน จากประชาชน ที่ได้รับผลกระทบ กรณีป่าสงวนดงสีชมพูประกาศทับที่ทำกินประชาชน ที่บ้านเหล่าทองหลาง ต.เหล่าทองอ.โซ่พิสัยจ.บึงกาฬ ขณะอ.เฝ้าไร่จ.หนองคายเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาการจัดการที่ดินส.ป.ก.ที่ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีถูกสั่งให้รื้อถอนออกจากพื้นที่ ขณะเดียวกันยังมีแผนผลักดันแปลงส.ป.ก.เป็นโฉนดอีกด้วย
นอกจากนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย เคยประกาศบนเวทีปราศรัยเมื่อครั้งร่วมรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ว่าจะแปลงที่ดินส.ป.ก.เป็นโฉนด โดยมอบกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทยดำเนินการ ซึ่งคาดว่านโยบายดังกล่าวจะกลับมาหาเสียงอีกครั้งในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ ในนามพรรคพลังประชารัฐ
แหล่งข่าวจากกรมที่ดินเปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นโยบายการเดินสำรวจออกโฉนด กรมที่ดินดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โฉนดถึงมือประชาชน และเข้าถึงหลักประกันสินเชื่อได้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาปีงบประมาณ 2565 ได้เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินพื้นที่ 70 จังหวัดมีเป้าหมาย 43,500 แปลงแต่สามารถดำเนินการได้ถึง 45,443 แปลงคิดเป็น 104.46%
โดยปีงบประมาณ 2566 ยังได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินใน 69 จังหวัดตั้งเป้า 52,000 แปลงทั่วประเทศช่วยประชาชนออกโฉนดในการได้มีกรรมสิทธิ์ถือครองผ่าน 2 โครงการ และโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินและรังวัดรูปแปลงโฉนดที่ดินให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน, โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับการจัดทำแผนออกโฉนดที่ผ่านมาครอบคลุม ปี 2565-2570 มีสัดส่วนที่ดินที่ตั้งอยู่ในเขตที่ดินรัฐ ทั้งเขตป่า และส.ป.ก. มีสัดส่วน 50% เมื่อเทียบกับที่ดินที่ตั้งอยู่นอกเขตที่ดินรัฐ หรือได้สิทธิ์ออกโฉนดแยกเป็นโครงการ บอกดิน 1 ปีงบประมาณ 2564 เดินสำรวจออกโฉนด จำนวน 1,105 แปลง และปีงบประมาณ 2565-2570 จำนวน 5,520 แปลง
เช่นเดียวกับบอกดิน2 ปีงบประมาณ 2565-2570 ออกโฉนด 186,958 แปลง ส่วนที่ดินที่อยู่ในเขตที่ดินรัฐจะได้รับจัดสรรให้ทำประโยชน์ ครัวเรือนละ 15 ไร่ ครอบครองคราวละไม่เกิน 5 ปี ตามโครงการ คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) จัดหาที่ดินทำกินให้ราษฎรตามนโยบายรัฐบาล จากการตรวจสอบในขณะนั้น ข้อมูลโครงการบอกดิน 1 มี ที่ดินที่อยู่ในเขตที่ดินรัฐ 5,274 แปลง บอกดิน 2 ที่ดินในเขตรัฐ 201,576 แปลง ในจำนวนนี้อยูในเขตที่ดิน ส.ป.ก. 58,772 แปลง
ขณะแผนออกโฉนดที่ดิน ในปีงบประมาณ 2565 กรมที่ดิน มีแผนออกโฉนดที่ดิน ทั้งแบบตั้งศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนด และออกโดยสำนักงานที่ดินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยก ทั่วประเทศ 70 จังหวัด รวมจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 42,000 -43,000 แปลง ขณะศักยภาพการออกโฉนดที่ดินต่อปีเฉลี่ย 1.2 แสนแปลง
ที่ผ่านมากรมที่ดินออกโฉนดไปแล้วปัจจุบันมี 34 ล้านแปลง ยังเหลืออีกประมาณ 3 ล้านแปลง ที่ยังไม่มีโฉนด หรือคิดเป็น 15 ล้านไร่ ซึ่งกรมที่ดินจะเร่งรัดออกเอกสารสิทธิ์ อย่างรวดเร็วตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาล และในปีงบประมาณ 2566 และปี 2567 จะเร่งรัดดำเนินการต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงโฉนดที่ดินได้มากขึ้น และหากพรรคไหนก้าวมาเป็นรัฐบาล แน่นอนว่า นโยบายที่ต้องทำเร่งด่วนคือการเร่งรัดออกโฉนดและการจัดหาที่ทำกินให้กับประชาชนต่อไป