"ชัยธวัช" แฉ ส.ว.โดนขู่-กดดัน-เสนอประโยชน์ ปมโหวตพิธาเป็นนายกฯ

11 ก.ค. 2566 | 08:52 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ก.ค. 2566 | 09:00 น.

โหวตเลือกนายกฯ : “ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล” แฉ มีกระแสกดดัน ส.ว.โหวต “พิธา” เป็นนายกฯ มีคนส่งข้อความขู่-เสนอผลประโยชน์ให้

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ว่า วันนี้มีการประชุมหารือกันระหว่าง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล และอีกวงเป็นการประชุมร่วมกันระหว่าง ส.ส. และ ส.ว. มีการตกลงเรื่องระยะเวลาในการโหวตนายกรัฐมนตรี โดยวันที่ 13 ก.ค. จะมีการเริ่มประชุมกันภายในเวลา 09.30 น. 

หลังจากที่มีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแล้ว ประธานรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ได้เสนอว่าให้สมาชิกอภิปรายซักถามอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะมีการโหวต ซึ่งคาดว่าจะได้โหวตนายกรัฐมนตรีในเวลาช่วงเย็น

\"ชัยธวัช\" แฉ ส.ว.โดนขู่-กดดัน-เสนอประโยชน์ ปมโหวตพิธาเป็นนายกฯ

นายชัยธวัช ย้ำว่า เป็นเรื่องปกติที่หากมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ประธานสภาฯ จะเปิดโอกาสให้ตอบคำถาม แสดงวิสัยทัศน์ไปในตัว ส่วนเสียง ส.ว. ที่จะโหวตให้นายพิธา ยอมรับว่ามีกระแสกดดันในกลุ่ม ส.ว.ค่อนข้างมาก ทำให้ขณะนี้ ส.ว. ส่วนใหญ่มีท่าทีที่ไม่แสดงออกชัดเจน ซึ่งคงต้องรอในวันที่ 13 ก.ค.

เมื่อถามว่า ส.ว. ที่ไปพูดคุยส่งสัญญาณบวกมาบ้างหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า มีสัญญาณบวกแน่นอน ต้องยอมรับอย่างที่เรียนในวันนี้มีกระแสข่าวกดดัน ส.ว.ที่อาจจะถูกคาดหมายว่าจะโหวตให้นายพิธาอย่างมาก 

\"ชัยธวัช\" แฉ ส.ว.โดนขู่-กดดัน-เสนอประโยชน์ ปมโหวตพิธาเป็นนายกฯ

“ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรไม่ทราบ แต่กระแสข่าวมีเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความ ส่งคนไปพูดคุยกดดัน บางกระแสข่าวมีการพูดถึงขั้นแบล็กเมล์ด้วยซ้ำ หรือเสนอผลประโยชน์ต่างๆ ให้ซึ่งหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริงๆ” 

เมื่อถามว่า มี ส.ว.บางคนออกมาขู่พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่าอาจมีการยุบพรรคหากโหวตให้นายกรัฐมนตรีที่มีคุณสมบัติขัดต่อรัฐธรรมนูญ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่น่าเกี่ยวกัน ส.ว.บางคน เช่น นายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ ที่บอกว่าไม่เกี่ยวกัน ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น

โดยจะมีข้อกล่าวหาอะไรก็ตามต่อนายพิธา เมื่อเข้าสู่กระบวนการไม่ว่าจะเป็นศาลหรือองค์กรอิสระ ยังไม่มีข้อยุติถึงที่สุด ก็ต้องถือว่านายพิธายังไม่มีอะไรผิดและเป็นการแยกการทำหน้าที่อยู่แล้วระหว่างการตรวจสอบเรื่องคุณสมบัติกับการโหวตนายกรัฐมนตรีของสมาชิกรัฐสภา 

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล

ส่วนจะทำให้ ส.ส.ไม่กล้าโหวตให้หรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เชื่อว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแยกออก สิ่งที่กังวลมากกว่าคือความพยายามชูเรื่องความจงรักภักดีมาเป็นเกณฑ์ในการให้โหวตหรือไม่โหวต คิดว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม มองว่าเป็นการหมิ่นเหม่ที่จะเอาสถาบันฯมาปะทะกับการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อสถาบันฯในระบอบประชาธิปไตย 

เมื่อถามว่า จะมีการแถลงจุดยืนเรื่องมาตรา 112 ก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (10 กรกฎาคม) ได้ทราบข่าวแม้กระทั่งว่ามีการส่งข้อความกันในหมู่ส.ว.ว่าต่อให้นายพิธาพูดเช่นนั้นเช่นนี้ก็อย่าหลงชื่อ 

“เข้าใจว่าท่านที่มีเจตนาแน่วแน่ว่าอย่างไรก็จะไม่โหวต ไม่ต้องการเห็นพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ก็จะมีเหตุผลร้อยแปด” 

เมื่อถามว่า มีแผนสำรองไว้หากโหวตครั้งแรกไม่ผ่านหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันใน 8 พรรคร่วม มองว่ายังไม่ถึงวาระที่จะประชุม และยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงจำนวนครั้งที่จะโหวต ซึ่งในที่ประชุม 8 พรรคร่วมในช่วงเช้าก็มีผู้เสนอว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้ ส.ส.โหวตก่อนแล้วตามด้วย ส.ว. แต่ในที่ประชุมเห็นว่าไม่ควรยกเว้นข้อบังคับ ยืนยันว่าทั้ง 8 พรรคจะเสนอชื่อนายพิธา เสียงส่วนมากย้ำว่าการพูดคุยกับ ส.ว.จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด 

\"ชัยธวัช\" แฉ ส.ว.โดนขู่-กดดัน-เสนอประโยชน์ ปมโหวตพิธาเป็นนายกฯ

เมื่อถามว่า กังวลเรื่องการพิจารณาหุ้นสื่อไอทีวีของนายพิธาหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นไปตามที่นายพิธาทำหนังสือไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่มีการแจ้งข้อเท็จจริงตามข้อกฎหมาย ที่มีการกล่าวหานายพิธา โดยได้เปิดโอกาสให้นายพิธาได้ชี้แจงตามกระบวนการที่ควรจะเป็น

"ตอนนี้เกิดคำถามว่าทำไมจึงลุกลี้ลุกลนจนมีกระแสข่าวว่าจะรวบรัดให้กกต. มีธงหรือไม่ ที่จะส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญยุติการปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ของนายพิธาก่อนที่จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรี คิดว่ากกต.ตั้งอธิบายให้ได้ว่าทำไมจึงไม่มีกระบวนการเรียกนายพิธา จะอ้างว่าไม่จำเป็น ไม่ได้ เพราะตามระเบียบปกติควรจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนไต่สวน จะมีเช่นนั้นไปทำไม หาก กกต.จะส่งทุกเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งทางสื่อมวลชนก็ทราบว่ามีข้อเท็จจริงและข้อถกเถียงกันเยอะว่าไอทีวีเป็นสื่อหรือไม่ ซึ่งคงฟันไม่ได้ว่ากกต.จะส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องน่าผิดสังเกต หวังว่าจะไม่มีธงทางการเมือง พร้อมย้ำว่าผล กกต.จะออกมาในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.) อย่างไรก็ไม่ผลต่อการโหวตนายกรัฐมนตรี"

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ในเรื่องที่บอกว่ามีการส่งข้อความในกลุ่ม ส.ว.หวังว่าจะไม่เป็นความจริง ซึ่งพรรคก้าวไกล มีหน้าที่รับผิดชอบศักดิ์ศรีของประชาชน ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ที่นายพิธาจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี เป็น 50:50 ใช่หรือไม่ นายชัยธวัช ยิ้มพร้อมกล่าวว่า ไม่ต้องการ 50 แต่ต้องการ 70