ขณะที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่าในวันศุกร์ที่ 17 มีนาคมนี้ จะเดินทางมายื่นคำร้องที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พี่ขอให้สอบสวนกรณี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ใช้ทรัพยากรของรัฐในการหาเสียง
จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีออกตรวจราชการทุกวัน ซึ่งการเดินทางไปใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศ ใช้เงินหลวง ใช้ข้าราชการทหาร ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพื่อให้ กกต. พิจารณาเพื่อเป็นมาตรฐาน
โดยเฉพาะนายพีระพันธุ์ ใช้ตำแหน่งเอื้อประโยชน์ต่อพรรคการเมืองจากการไปตรวจราชการของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งนายพีระพันธุ์ เป็นเลขาธิการนายกฯรัฐมนตรี และเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง และเป็นคนจัดโปรแกรมในฐานะเลขาธิการนายกฯ
ซึ่งความผิดที่เกิดขึ้นแม้จะยุบสภาแล้ว ก็ไม่ถือว่าความผิดนั้นหมดไป เพราะตามมาตรา 132 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กำหนดว่าก่อนการประกาศผลการเลือกตั้ง หากพบผู้สมัคร ผู้ใดทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม สามารถให้ใบส้มได้ ซึ่งหากพบหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรครู้เห็น ก็สามารถยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งได้
การยื่นต่อ กกต.ในครั้งนี้จะยื่นในนามประชาชน ไม่ใช่ในนามพรรคเสรีรวมไทย
นายสมชัย ระบุอีกว่าความผิดที่เกิดขึ้นแม้จะยุบสภาแล้ว ก็ไม่ถือว่าความผิดนั้นหมดไป เพราะตามมาตรา 132 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กำหนดว่าก่อนการประกาศผลการเลือกตั้ง หากพบผู้สมัคร ผู้ใดทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม สามารถให้ใบส้มได้ ซึ่งหากพบหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรครู้เห็น ก็สามารถยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งได้
การยื่นต่อ กกต.ในครั้งนี้จะยื่นในนามประชาชน ไม่ใช่ในนามพรรคเสรีรวมไทย