นับถอยหลังเข้าสู่การเลือกตั้ง 2566 ทุกพรรคการเมืองต่างประกาศความเชื่อมั่นในการกวาดเก้าอี้ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรคการเมืองที่ประกาศตัวเลขสูงสุด ณ ขณะนี้ คงจะเป็นพรรคเพื่อไทย ที่ไม่ใช่เพียงประกาศแลนด์สไลด์เกินกึ่งหนึ่งของสภาล่าง แต่ประกาศตัวเลขไปถึง 310 ส.ส. และยังรออีก 1 รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ฐานเศรษฐกิจ สัมภาษณ์พิเศษ 2 ผู้บริหารพรรค หนึ่ง นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอีกหนึ่ง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถึงรหัสจัดตั้งรัฐบาล 310 และยุทธ์ศาสตร์สู้ศึกเลือกตั้ง 2566
ถอดรหัส ตัวเลข 310
นายแพทย์ชลน่าน ได้ถอดรหัสที่มาตัวเลข 310 ที่นั่งในสภา ว่า 310 คือจำนวน ส.ส. ที่ควรจะมีในสภา เพื่อการจัดตั้งรัฐบาลที่มีความเข้มแข็ง มีเสถียรภาพ ทั้งในการบริหาร และการออกกฎหมายเพื่อรองรับการทำนโยบาย ฉะนั้น 310 จึงเป็นตัวเลขเชิงเป้าหมาย เพื่อวางยุทธศาสตร์พรรค ไปสู่ตัวเลขดังกล่าว
"ตัวเลข 310 มาจากการพิจารณาความเป็นไปได้ ไม่ใช่ตัวเลขเพ้อฝัน หากพรรคเพื่อไทย ได้ส.ส. บัญชีรายชื่อ 50 ที่นั่ง และหาอีก 260 ที่นั่งจากส.ส.เขต จึงมองเห็นถึงแนวโน้มที่มีโอกาสเป็นไปได้ในการมีจำนวนส.ส. 310 ที่นั่ง"
สืบเนื่องจากยุทธศาสตร์แลนสไลด์ทั้งแผ่นดิน นำไปสู่ความเป็นไปได้ โดยพื้นฐานของคำว่าแลนด์สไลด์นั้น พรรคเพื่อไทยต้องได้ จำนวน ส.ส. 250 คนขึ้นไป เพราะถือว่าเกินกึ่งหนึ่งของสภา ซึ่งจากการทำงานหนัก ลงพื้นที่ และสำรวจความนิยมเรื่อยมา รวมถึงผลโพลจากทุกสำนักจนถึงขณะนี้ ทำให้มั่นใจว่าพ.ท.จะได้ ส.ส. เกิน 250 คนแน่นอน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าว
นายภูมิธรรม ได้กล่าวเสริมถึงแนวคิดของพรรคเพื่อไทย ในการวางเป้าหมายว่า มีพื้นฐานมาจากความเป็นจริง ไม่ใช่จากความต้องการของพรรค จึงไม่เป็นตัวเลขที่เพ้อฝัน โดยตัวเลขเริ่มต้นครั้งแรก มาจาก 180+40 ฉะนั้นการตั้งเป้าหมายแรกอยู่ที่ 250 ที่นั่ง จึงไม่ได้เกินเลยเกินไป ซึ่งในขณะนั้น คะแนนนิยมของ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร อยู่ที่ 8-10% เท่านั้น
ในปัจจุบันคะแนนนิยมของน.ส. แพทองธาร เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมากกว่า 40% และเมื่อรวมกับกระแสนิยมหลังการเปิดตัวนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็เป็นการเพิ่มคะแนนจากส่วนต่างๆเพิ่มขึ้น
น.ส.แพทางธาร ได้คะแนนจากกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยเป็นพื้นฐาน จากแคมเปญบ้านหลังใหญ่หัวใจดวงเดิม ด้านนายเศรษฐา ก็เสริมในส่วนของการประสานงานกับกลุ่มนักธุรกิจ สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สะท้อนได้จากโพลสำรวจความคิดเห็นของCEO ที่ให้นายเศรษฐาเป็นอันดับ1 ในตำแหน่งนายกฯ
นายภูมิธรรม ให้ข้อสังเกตอีกประการคือ คะแนนนิยมของพรรค และตัวบุคคลเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ต่างจากพรรคอื่นๆที่คะแนนนิยมของพรรค และตัวบุคคลอาจสวนทางกัน ฉะนั้นพรรคเพื่อไทยจึงมีต้นทุนที่ดี และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนได้ว่า สามารถดำเนินการตามที่รับปากไว้ พรรคเพื่อไทย พูดแล้วทำได้ดีกว่าที่พูด
"วันนี้ถ้าไม่เลือกเพื่อไทย ก็ต้องเลือกขั้วของพล.อ.ประยุทธ์ วันนี้มี 2ขั้วนี้เท่านั้น ที่มีโอกาสชนะ หากต้องการออกจากระบอบประยุทธ์ ต้องเลือกเพื่อไทยเท่านั้นเพื่อไม่ให้คะแนนตกน้ำ" นายภูมิธรรมย้ำ
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวโดยสรุปว่า 310 คือตัวเลขชี้วัดในการออกจากระบอบประยุทธ์ นำสู่การเปลี่ยนแปลงได้
แต่การโหวตนายกรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญกำหนดให้บุคคลที่สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องได้คะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาทั้งหมด หรือ 376 เสียง จากการลงมติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 500 คน และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 250 คน
หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้ ส.ส. 310 เสียงตามเป้าหมาย จะต้องรวบรวมเสียงอีก 66 เสียงเพื่อให้ครบ 376
คำถามที่ตามมาคือพรรคเพื่อไทยจะรวบรวมเสียงตรงนี้อย่างไร
นายภูมิธรรมกล่าว ตอบว่า "หากเพื่อไทยจะเสนอตัวเลข ส.ส. 376 ที่นั่ง ก็ไม่เป็นการฝันเกินจริง เพราะเคยทำจำนวนเก้าอี้ถึง 377 ที่นั่งมาแล้ว"
พร้อมอธิบายต่อไปว่า ในขณะนี้ยังไม่ได้ตั้งเป้าที่ 376 เนื่องจากคิดเพียงแลนด์สไลด์อย่างเดียวเท่านั้น ยังไม่ได้คิดเรื่องการจับมือกับใครเพื่อจัดตั้งรัฐบาล เพราะหากพรรคมีคะแนนเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาด จะทำให้สามารถทำสิ่งที่บอกกับประชาชนได้ วันนี้พรรคเป็นกลไกเครื่องมือให้ประชาชนได้บรรลุความหวัง ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง
นายแพทย์ชลน่าน ฉายภาพเสียง 376 เพื่อการจัดตั้งรัฐบาลว่า ตัวเลข 310 จะเป็นแรงเหวี่ยงที่มีความแรงพอ ให้ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต้องยอมรับอำนาจของประชาชน แต่หาก ไม่มีคะแนนเสียงจาก ส.ว.เลย ก็เชื่อมั่นว่าเสียงจากส.ส.เอง ก็ต้องเคารพเสียงที่เด็ดขาดของประชาชน ต้องร่วมโหวตให้พรรคเพื่อไทยจนครบ 376 เสียง มิฉะนั้นพรรคการเมืองเหล่านั้นก็จะอยู่ไม่ได้
ผ่าสเปก แคนดิเดตนายกฯ คนที่3
นายภูมิธรรม ได้เปิดเผยถึงสเปกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทั้ง 3 รายชื่อของพรรคเพื่อไทยว่า 3 คน 3 สไตล์ เพื่อให้ได้คะแนนมาเสริมกัน โดยกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณาจากหลักที่ว่า ฐานรากของเรามีใคร ใครเป็นที่นิยมที่สุด ใครมีคุณสมบัติที่ประชาชนเชื่อมั่นและให้ความไว้วางใจ ซึ่งยังต้องรอกรรมการบริหารประกาศอย่างเป็นทางการไม่เกินวันที่ 4 เมษายน 2566 นี้