วันที่ 1 เมษายน 2566 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนกล้า กล่าวปฐมนิเทศว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั่วประเทศของพรรคชาติพัฒนากล้า ว่า วันนี้บ้านเมืองมีปัญหาในเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจ พี่น้องประชาชนเดือดร้อน พรรคชาติพัฒนากล้าจะต้องใช้ประสบการณ์ ความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจ และบุคลากรของพรรคเข้าไปช่วยกันแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน
การเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องเป็นทางออกของการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ เราได้เตรียมนโยบาย “งานดี มีเงิน ของไม่แพง” ในการมาสร้างเศรษฐกิจใหม่ สร้างงานและแก้ไขปัญหาค่าครองชีพสินค้าราคาแพงโดยเฉพาะราคาน้ำมัน ไฟฟ้า
นอกจากนั้น ต้องมีการพัฒนาภาคอีสานภายใต้นโยบาย “โคราชโนมิกส์” ที่จะสร้างโคราชโดยภาคอีสานให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ ให้มีการค้า การลงทุน การจ้างงานเปรียบเสมือนนโยบาย แปรสนามรบเป็นสนามการค้า ภาคที่ 2 หรือเปิดประตูอีสานสู่อินโดจีน
แต่เป็นอะไรที่ใหญ่กว่าอินโดจีนเยอะ เพราะวันนี้ภูมิรัฐศาสตร์เปลี่ยนแปลงไปอีสานสามารถเชื่อมโยงกับจีน และเส้นทางสายไหมของจีน ที่จะทำให้เชื่อมโยงกับยุโรป และประเทศอื่นๆ อีกมากที่มีศักยภาพการลงทุน ที่จะเป็นตลาดใหญ่ของภาคอีสานต่อไป
เพียงแต่มีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมให้เกิดการเชื่อมโยงเท่านั้น คือ การต่อขยายมอเตอร์เวย์และรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง จากโคราชไปถึงหนองคาย เพื่อเชื่อมโยงกับกรุงเวียงจันทน์ เพราะมีรถไฟความเร็วสูงจากกรุงเวียงจันทน์ ไปถึงตอนใต้ของจีนแล้ว
นายสุวัจน์ เน้นย้ำกับว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทุกคน ให้เข้าพบประชาชนและพูดถึงนโยบายของพรรคว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างไร การหาเสียงไม่จำเป็นจะต้องไปพูดถึงท่านอื่น หรือ พรรคการเมืองอื่น อย่าไปโจมตีใคร ขอให้พูดเฉพาะตนเอง หรือ พรรคการเมืองของเราเท่านั้น ว่าจะทำอะไรให้กับพี่น้องประชาชน และอย่าทำอะไรที่เป็นการผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างเด็ดขาด
พรรคชาติพัฒนากล้าจะต้องเป็นพรรคการเมืองที่เข้าได้กับทุกฝ่าย ต้องช่วยกันลดความขัดแย้งทางการเมือง ต้องช่วยกันสร้างเสถียรภาพให้กับการเมืองไทย พรรคการเมืองเข้มแข็งก็จะมีพลังในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
“เราต้องช่วยกันสร้างการเมืองในมิติใหม่ ขอให้ทุกท่านโชคดีประสบความสำเร็จได้มีโอกาสเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป”นายสุวัจน์ กล่าว