เลือกตั้ง66: "ลุงตู่”วิพากษ์แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท จับต้องไม่ได้

08 เม.ย. 2566 | 02:55 น.
อัปเดตล่าสุด :08 เม.ย. 2566 | 03:15 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดทนายกฯรัฐมนตรีอันดับ 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ  ระบุ นโยบายหาเลียงเลือกตั้ง 2566 ด้วยการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท จับต้องไม่ได้ ระบุจะใช้เงินลักษณะใดก็ตามจะต้องมีเม็ดเงินจริงอยู่เสมอ ยกตัวอย่างบางประเทศล้มทั้งยวง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง และในฐานะแคนดิเดทนายกฯรัฐมนตรีอันดับ 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ ตอบคำถามถึงนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง อยากฝากเตือนประชาชนไม่ให้หลงเชื่อในบางนโยบายที่เป็นการขายฝันหรือไม่ว่า ประชาชนต้องไปอ่านข้อมูลข้อเท็จจริง และบางเรื่องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ชี้แจงมาแล้ว

เรื่องเงินต่างๆ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ชี้แจงมาแล้ว ก็ขอให้ระมัดระวัง ว่าจะเป็นการหาเงินเข้ากระเป๋า 10,000 บาท ที่บางพรรคหาเสียงก็ต้องระมัดระวัง ซึ่งมีหลายฝ่ายออกมาเตือนแล้ว แต่เราจะไปห้ามประชาชนคงไม่ได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคนดิเดทนายกฯรัฐมนตรีอันดับ 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ

 

ก่อนหน้านี้นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ 1 ในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ได้ประกาศกลางเวทีปราศรัยใหญ่ ภายใต้สโลแกน“คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ตอน One Team for all Thais : หนึ่งทีมเพื่อไทยทุกคน” ว่า พรรคเพื่อไทย มีนโยบายเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้คนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยต้องใช้จ่ายในรัศมี 4 กม. ตามที่อยู่ในบัตรประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเคยพูดไว้แล้ว และเคยเตือนเอาไว้แล้วว่าเงินดิจิทัลเป็นเงินที่จับต้องไม่ได้ แต่เป็นเงินที่ตกลงซึ่งกันและกัน และก็รู้ถึงที่มาของเงิน ที่ใช้บล็อกเชนเป็นตัวควบคุม ไม่มีตัวเงินที่แท้จริง เป็นตัวเลขที่ยอมรับกันทั้ง 2 ฝ่าย ระหว่างผู้ใช้กับผู้ให้บริการ แต่ก็จะเห็นว่าบางประเทศก็ล้มไปทั้งยวง ธนาคารก็ล้มทั้งหมด สิ่งสำคัญคือสิ่งที่เอามาพูดกันวันนี้

ทั้งนี้ไม่อยากไปแตะต้องใคร แต่จะต้องระมัดระวังอย่างที่สุด เพราะไม่ว่าจะใช้เงินลักษณะใดก็ตามจะต้องมีเม็ดเงินจริงอยู่เสมอ พูดลอยๆเท่าไหร่ก็ได้ แต่มีงบประมาณที่อยู่ในคลังมีเงินสำรองอยู่ในคลังพอหรือไม่ ถ้าไม่พอมันเสี่ยง ส่วนตัวคิดว่าเรื่องแบบนี้ต้องระวังอย่างที่สุด ทุกคนในพรรค รทสช.ระวังกัน ทั้งหมดการใช้งบประมาณต้องไม่ผิดระเบียบและไม่ผิดกฎหมาย แค่พูดผิดก็กลัวแล้ว ซึ่งปกติตนไม่เคยกลัวใคร