การออกไปใช้สิทธิเลือกผู้แทนที่จะบริหารประเทศถือเป็นหน้าที่ของประชาชนชาวไทย โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง กำหนดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น.
นอกจากนี้กฎหมายได้ระบุเอาไว้ด้วยว่า หากไม่ไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งเราจะเสียสิทธิทางการเมืองหลายประการด้วยกันรวม 5 ประการเป็นระยะเวลา 2 ปีนับแต่วันเลือกตั้ง
1.สิทธิในการยื่นคําร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.
2.สิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. หรือสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมัครรับเลือกเป็น ส.ว.
3.สิทธิในการสมัครรับเลือกเป็นกํานันและผู้ใหญ่บ้าน
4.ต้องห้ามดํารงตําแหน่งข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง
5.ต้องห้ามดํารงตําแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่นหรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น
ทั้งนี้ กกต. ได้กำหนดเหตุอันสมควรที่ไปสิทธิเลือกตั้งไม่ได้
1.ผู้มีธุรกิจจําเป็นเร่งด่วนต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกล
2.ผู้ป่วยและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
3.ผู้พิการหรือผู้สูงอายุและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
4.ผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร
5.ผู้มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้งเดินกว่า 100 กิโลเมตร
6.ผู้ประสบเหตุสุดวิสัย เช่น อุทกภัย วาตภัย ฯลฯ
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการเสียสิทธิ ผู้ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสามารถแจ้งเหตุอันไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ซึ่งมีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
แจ้งเหตุก่อนหรือหลังวันเลือกตั้ง 7 วัน โดยขอรับแบบ ส.ส. 28 หรือทําหนังสือชี้แจงเหตุที่ทำให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ได้ และให้ระบุเลขประจําตัวประชาชนและที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
ยื่นหนังสือต่อนายทะเบียนอําเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น โดยสามารถยื่นด้วยตนเอง หรือมอบหมายผู้อื่น หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือแจ้งทางอินเทอร์เน็ตที่ สำนักบริหารการทะเบียน (คลิกที่นี่) โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดผู้ไม่ไปใช้สิทธิและผู้แจ้งเหตุจำเป็นไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ที่ https://www.bora.dopa.go.th/all-election