“จุรินทร์” เตือน!ซื้อเสียง-ถอนทุน นำไปสู่การทุจริต-รัฐประหาร

04 พ.ค. 2566 | 09:37 น.
อัปเดตล่าสุด :04 พ.ค. 2566 | 09:43 น.

"จุรินทร์" ลุยปราศรัย"กระบี่-นครศรีฯ-พังงา-สงขลา" มั่นใจประชาธิปัตย์พาประเทศรอดได้ เตือน!การเมืองซื้อเสียง-ถอนทุน นำไปสู่การทุจริต-รัฐประหาร

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกำหนดการลงพื้นที่ของพรรคในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายว่า เมื่อวานได้ปราศรัยใหญ่ที่พิจิตร มีคนเข้าฟังจำนวนมากคาดว่าหลายหมื่นคน และชาวบ้านให้ความสนใจมาก จึงเชื่อว่าที่จังหวัดพิจิตร ประชาธิปัตย์จะปักธงได้แน่นอน

ส่วนจะกี่ที่นั้นก็ต้องรอดูวันเลือกตั้ง แต่คะแนนพรรคก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมากเหมือนกัน เพราะเรามีผู้แทนราษฎรมาหลายยุค อีกทั้งมีนายไพฑูรย์ แก้วทอง นายนราพัฒน์ แก้วทอง ซึ่งเป็นรองหัวหน้าพรรค ที่เป็นหัวเรือหลักมาช่วย

ส่วนวันที่ 5 พ.ค. นี้ จะมีการจัดปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดกระบี่ในช่วงเย็น จากนั้นวันที่ 6 พ.ค. จะเป็นที่นครศรีธรรมราช และก่อนที่จะปราศรัยใหญ่ในอำเภอเมือง ตนจะได้ไปที่ อ.ทุ่งสง เพื่อช่วยหาเสียงให้ นายประกอบ รัตนพันธุ์ จากนั้นในวันที่ 7 พ.ค. ตนจะมาลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าที่จังหวัดพังงา และถือโอกาสขึ้นปราศรัยในเขต 2 นายราเมศ รัตนะเชวง ส่วนวันที่ 8 พ.ค. จะปราศรัยที่จังหวัดสงขลา จากนั้นยังจะมีกิจกรรมต่อเนื่องไปจนถึงวันเลือกตั้ง 
 


ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ในพื้นที่ภูเก็ต และพังงา จะมีหลายพรรคการเมืองเตรียมลงพื้นที่ในสัปดาห์นี้เช่นกัน มีความมั่นใจในการรักษาฐานที่มั่นไว้ได้หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าสำหรับประชาธิปัตย์ยังดีอยู่มาก ล่าสุดเพิ่งได้คุยกับผู้สมัครภูเก็ต ก็ยังมั่นใจว่าเสียงตอบรับยังดี และหลังการปราศรัยก็ยิ่งทำให้ดีขึ้นไปอีก ส่วนประเด็นสำคัญของภาพรวมที่น่าห่วงมีอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องการใช้เงิน ซึ่งตนเป็นห่วง แต่ยังมั่นใจว่าคนใต้ซื้อไม่ได้ 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

“อยากให้พี่น้องประชาชน คนใต้ และพี่น้องทุกภาค อย่าพิจารณาการลงคะแนนเสียงจากเงินที่มาหยิบยื่นซื้อเสียง เพราะสิ่งนี้สุดท้ายจะหันกลับมาทำลายประเทศ และทำลายประชาธิปไตยระยะยาวด้วย ถ้าใครใช้เงินซื้อเสียงมาก เข้าไปถอนทุนคืน สุดท้ายก็เกิดการทุจริต คอร์รัปชั่น สุดท้ายที่การยึดอำนาจมาทุกครั้งก็เพราะมีการทุจริตของรัฐบาลก่อนหน้า ผมอยากให้ทุกคนได้ช่วยกันตระหนักในเรื่องนี้ และเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศก็จะต่อต้านและไม่ยอมรับเรื่องนี้” 

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังระบุว่าแม้แต่บนเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้เน้นย้ำถึงการเสนอตัวมาเป็นทางเลือกเพื่อให้เข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และหยุดวงจรรัฐประหาร ซึ่งเรื่องนี้นายจุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการเลือกตั้งนี้ หมายถึงการเลือกอนาคตให้ประเทศ ว่าจะให้ใครเข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ และมาเป็นตัวกำหนดอนาคตประเทศ ดังนั้นจึงต้องเลือกพรรคการเมืองที่มั่นใจว่าจะพาประเทศรอด รอดทั้งทางเศรษฐกิจ และรอดทั้งทางการเมือง คือพาประชาธิปไตยรอดด้วย 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

“ประชาธิปัตย์นั้น ผมมั่นใจว่า ถ้าเราได้จัดตั้งรัฐบาล เราพาประเทศรอดในทางเศรษฐกิจ เพราะอดีตพิสูจน์มาแล้วทั้งตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง พรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาล เราก็พาประเทศผ่านวิกฤติได้ ยุคแฮมเบอร์เกอร์ พอประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาล เราก็พาประเทศพ้นวิกฤติได้ เที่ยวนี้ปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญอยู่ ผมก็เชื่อว่าถ้าเราเป็นแกนตั้งรัฐบาล เราพาประเทศรอดได้แน่นอน และที่สำคัญคือเราพาประชาธิปไตยรอดด้วย เพราะประชาธิปัตย์ไม่โกง กี่ยุคมาแล้วที่ประชาธิปไตยไม่รอด รัฐบาลก่อนรัฐประหารโกง ก็เลยเป็นปัญหา เพราะฉะนั้นคนไทยมั่นใจได้ว่า ประชาธิปัตย์พาประเทศรอดได้ ทั้งทางเศรษฐกิจ และทางการเมือง ซึ่งทำให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างมั่นคง มีเสถียรภาพ และยั่งยืน” นายจุรินทร์ กล่าว 

ส่วนการที่มหาวิทยาลัยหอการค้าชี้ว่ารัฐบาลหน้าควรเป็นรัฐบาลที่ทำนโยบายลดค่าครองชีพนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีความสอดคล้อง และสนองความต้องการเหล่านี้ได้แน่นอน เพราะเป็นสิ่งที่เรามีประสบการณ์ และทำอยู่บางส่วน แม้ไม่ได้มีอำนาจเต็มก็ตาม แต่ถ้ามีอำนาจเต็ม เราจะสามารถจับมือกับเอกชน และทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนประเทศไปได้แน่นอน พร้อมกับสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่เอกชนต้องการได้