ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ว่าที่ผู้สมัครเขต 1 จ.เลยนำผู้สมัครในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานประมาณ 10 คน บุกที่ทำการพรรค รทสช. เพื่อร้องเรียนพรรคที่ไม่ดูแล โดยนายปรีชา ระบุว่าพรรคไม่ดูแล ไม่รักษาสัญญา ซึ่งทำให้ผู้สมัครหาเสียงยาก หัวหน้าพรรคไม่คุย เลขาธิการพรรคก็ไม่อ่านไลน์ ซึ่งตนอยู่วงการเมืองมา ไม่เคยเจอการเมืองแบบนี้ โดยเฉพาะ นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ เลขาธิการพรรค ที่ไม่ทำตามที่สัญญาที่ให้กันไว้
จึงอยากให้พรรคให้ความเป็นธรรมกับ ผู้สมัครในหลายจังหวัด เช่น เลย กาฬสินธุ์ชัยภูมิ ที่มอบให้ตนมาเป็นตัวแทนผู้สมัครภาคเหนือและภาคอีสาน ภาคกลางบางส่วน ให้ชี้แจงประชาชนได้รับทราบว่าผู้สมัครเหล่านี้มีความตั้งใจและปรารถนาดี จะไปรับใช้ประชาชน
การติดต่อประสานงานกับพรรคไม่ได้รับความเป็นธรรมกับพวกตนเลย พรรคบอกว่าจะดูแลตามกฎหมายเลือกตั้งแต่ผู้สมัครบางคนน่าสงสารต่อสู้มา แม้แต่เงินค่าน้ำมันค่าป้ายโฆษณาก็ไม่มี สุดท้ายถูกพรรคลอยแพ ไม่ได้รับการดูแลเหลียวแลค่าใช้จ่ายเหล่านี้ และหลายคนไม่กล้ามาเพราะใจไม่ถึง ตนจึงเป็นตัวแทนมาที่พรรค และยืนยันว่ายังคงเดินหน้าทางการเมืองต่อ ยังสู้ เพียงแต่สิ่งที่รับปากกับประชาชนไว้ ไม่สามารถทำได้ จึงขอโทษประชาชนด้วย
นายปรีชากล่าวว่า ที่ผ่านมา พรรคดูแลนิดหน่อยแต่ยังไม่ถึงตามที่กฎหมายเลือกตั้งกำหนดไว้ เมื่อถามว่าที่ผ่านมาได้มีการประสานไว้ก่อน หรือไม่ ทำไมช่องทางการสื่อสารถึงถูกตัดไป นายปรีชา กล่าวว่าหัวหน้าพรรคยังไม่เคยคุยกับเราเลย เลขาธิการพรรคส่งไลน์ ไปก็ไม่อ่าน มันหมายความว่าอย่างไร เวลาที่ตนบอกว่าจะมาแถลงข่าวก็บอกว่าไม่ต้องมา ยืนยันมาด้วยความอึดอัดใจแต่ไม่ได้ต้องการทำลายใคร
เมื่อถามว่า การออกมาในช่วงโค้งสุดท้ายจะส่งผลเสียต่อพรรคหรือไม่ นายปรีชา กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนที่จะรู้ดีว่าพวกตนลงพื้นที่อย่างไร ส่วนตัวเป็นนักการเมืองเป็นอดีตรัฐมนตรี 2 กระทรวงในชีวิตการเมืองไม่เคยเจอ การเมืองแบบนี้ และถ้าสัญญาณที่ส่งไปวันนี้ผู้ใหญ่ของพรรคยังคงนิ่งเฉยก็ไม่สนใจแล้วเพราะสนใจแต่พี่น้องประชาชน
“อยากส่งกระแสจิตให้ ผู้ใหญ่ของพรรค ทราบ อาจหูบอด หรือไม่ได้ยิน ยืนยันพวกเราไม่ได้มาทำลายแต่มาด้วยใจหลายคนไม่กล้ามาแต่พวกผมเดนตายไม่กลัวแล้ว ทุกอย่างโกหกคนอื่นได้แต่โกหกตัวเองไม่ได้” นายปรีชา กล่าว
ในระหว่างที่นายปรีชากำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธ.หิ เดินผ่าเข้ากลางวงแล้วบอกว่าขออนุญาตในฐานะ ตัวแทนผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอสอบถามถึงข้อเรียกร้อง ที่จะมายื่น แต่นาย ปรีชาบอกว่าไม่มี
จากนั้น นายหิมาลัย กล่าวชี้แจงว่า พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคการเมืองซึ่งเป็นที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์มีแนวคิดทางการเมืองเดียวกันเพื่อให้นำนโยบายไปบอกประชาชนและในการทำพรรคด้วยความโปร่งใสยุติธรรม ผู้บริหารของพรรค แต่ละคนมีชื่อเสียงของเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
พรรคไม่สามารถหาเงินนอกระบบหรือจากกลุ่มทุนใดๆได้ เพื่อให้พรรคมีความเป็นอิสระในการทำงาน รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง จึงอาจทำให้ไม่สะดวกหรือไม่เป็นไปในแนวทางที่ท่านต้องการ และจะนำข้อเรียกร้องในวันนี้เรียนผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคทราบต่อไป
นายหิมาลัย กล่าวว่า ในการทำการเมืองนั้นพรรคการเมืองใดก็ตามมีนโยบายและอุดมการณ์ที่ชัดเจน และถ้าจะเป็นผู้แทนก็ควรจะพร้อมในทุกด้านถึงจะมาสมัครเป็นผู้แทนเนื่องจากหากจะไปรับใช้ประชาชนแล้วไม่มีความพร้อมจะยิ่งเป็นภาระให้ประชาชน
ส่วนพรรคการเมืองก็ไม่ใช่สถาบันการเงินดังนั้นการดูแลทางด้านการเงินอาจไม่ครบถ้วน การมาร่วมงานกับพรรคควรจะศึกษาอุดมการณ์และนโยบายว่าเข้ากับความคิดของท่านหรือไม่ถ้าเข้าก็มาร่วมได้ส่วนด้านอื่นนั้นเราต้องการทำพรรคอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมและโปร่งใสอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและกรรมการการเลือกตั้งเราจึงไม่มีงบในการใช้จ่ายอะไรนอกเหนือจากกติกา
เพราะพรรคมีอุดมการณ์และอุดมคติ ปกป้องสถาบันและรับใช้ชาติและประชาชน ที่ไม่ต้องใช้งบประมาณมากมายจึงขอเน้นย้ำผู้ที่ต้องการเล่นการเมืองทุกท่านต้องพร้อมจริงๆถึงจะมาเล่นการเมืองเพราะถ้าเล่นการเมืองคือการเสียสละเพื่อให้ประชาชน การเล่นการเมืองคือการเสนอตัวมารับใช้ประชาชนไม่เป็นภาระให้ประชาชน
เมื่อถามว่าการออกมาในช่วงนี้จะส่งผลต่อพัดหรือไม่ นายหิมาลัย กล่าวว่าทุกคนมีสิทธิ์ในการนำเสนอต่างๆ นายสมชอบ นิติพจน์ ผู้สมัคร ส.ส. นครพนม เขต4 ยืนยันไม่ได้มาเรียกร้องอะไรจากพรรคเพียงแต่จะมาบอกว่าหลายยุทธศาสตร์ที่วางเอาไว้ไม่เป็นไปตามข้อตกลง เช่น การเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปปราศรัยที่ภาคอีสานจังหวัดนครพนม ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากพรรค จนถึงทุกวันนี้
เมื่อกระบวนการหาเสียงไม่ครบจึงเกิดความไม่มั่นใจว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนจึงอยากออกมาขอโทษว่า ไม่สามารถทำได้ครบตามกระบวนการหาเสียงหากประชาชนยังรักก็ขอให้เลือกพรรคและผู้สมัครของพรรคเพื่อนำนโยบายที่ดีไปปฏิบัติ และส่วนตนขอยุตติการหาเสียงในเขตไปก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายปรีชายมายื่นข้อเรียกร้อง ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่พรรค กระจายกำลังยืนบริเวณหน้าที่ทำการพรรคเพื่อดูแลความเรียบร้อย หลังจากให้สัมภาษณ์สื่อต่างก็แยกย้ายกลับ