การเลือกตั้ง ส.ส. ถือเป็นหน้าที่ของประชาชนคนไทยที่มีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ที่ต้องออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งลงคะแนน โดย กกต. กำหนดให้หย่อนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566
ทั้งนี้ หากผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. แต่ไม่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งจะเสียสิทธิหลายประการเป็นเวลาครั้งละ 2 ปี นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง ดังนี้
1.ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.
2.ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. หรือสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมัครรับเลือกเป็น ส.ว.
3.ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกเป็นกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน
4.ไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง
5.ไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการเสียสิทธิ หรือ รักษาสิทธิดังกล่าวเอาไว้ ผู้ที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสามารถแจ้งเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ซึ่งมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
โดยสามารถยื่นได้ด้วยตนเองหรือมอบหมายผู้อื่น หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือแจ้งทางอินเทอร์เน็ตผ่านทางเว็บไซต์ระบบแจ้งเหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ สามารถยื่นแจ้งเหตุจำเป็นไม่อาจไปใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 7-21 พ.ค.2566
เหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
1.มีกิจธุระจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกล
2.เจ็บป่วยและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
3.เป็นคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
4.เดินทางออกนอกราชอาณาจักร
5.มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้งเกินกว่า 100 กิโลเมตร
6.ได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปปฏิบัติหน้าที่นอกเขตเลือกตั้ง
มีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุอื่นที่ กกต. กำหนด
ทั้งนี้ กรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้แจ้งเหตุไว้แล้วหากในวันเลือกตั้งเหตุดังกล่าวได้สิ้นสุดลง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ตนมีสิทธิเลือกตั้งได้