การประกาศนโยบายหาเสียงปีนี้ “พรรคประชาธิปัตย์” ที่นำโดยหัวเรือใหญ่ อย่าง “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ส่งผู้สมัคร สส.แบบแบ่งเขต ครบทั้ง 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อ 98 คน ยุทธศาสตร์เลือกตั้งปีนี้ คือ “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ”
พรรคประชาธิปัตย์ มีการเสนอนโยบายแบ่งออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ เกษตรทันสมัย, สวัสดิการตลอดชีพ, เศรษฐกิจการค้า, การศึกษาทันสมัย รวมใช้งบประมาณทั้งสิ้น 685,400 ล้านบาท
เศรษฐกิจ
1.SME ต้องมีแต้มต่อ 3 แสนล้าน ทั้งด้านการผลิต การตลาด และตั้งกองทุน 3 แสนล้านให้ SME สามารถเข้าถึงแหล่งเงิน แหล่งทุน สำหรับนำมาขยายกิจการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้กับประเทศ จะทำให้เกิดการจ้างงาน 12.6 ล้านคน (วงเงิน 3 แสนล้านบาท)
2.ธนาคารหมู่บ้าน/ชุมชน แห่งละ 2 ล้านบาท เพื่อให้ประชาชนมีแหล่งเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพ มีรายได้ สร้างความเข้มแข็งให้ประชาชนระดับรากหญ้า แก้ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน จากปัจจุบันมีหมู่บ้านรวมกว่า 80,000 แห่ง (วงเงิน 1.6 แสนล้านบาท)
เกษตรกรรม
3.ประกันรายได้เกษตรกร โดยจ่ายเงินส่วนต่างเกษตรกรผู้ปลูกพืช 5 ชนิด คือ ข้าว มัน ยาง ปาล์ม และข้าวโพด เพื่อให้หลักประกันรายได้เมื่อราคาผลผลิตตกต่ำ (วงเงิน 7 หมื่นล้านบาท)
4.ชาวนารับ 30,000 บาทต่อ 1 ครัวเรือน เพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน และยกระดับชีวิตชาวนาให้ดีขึ้น (วงเงิน 9.7 หมื่นล้านบาท)
5.เงิน 3 ล้านบาทต่อยอดเกษตรแปลงใหญ่ ส่งเสริมการรวมกลุ่มของเกษตรกรเพื่อกำหนดผลผลิตภาคเกษตรกรรม เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองในระบบตลาด สร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน (วงเงิน 30 ล้านบาท)
6.ให้เงินอุดหนุนกลุ่มเกษตรกรประมง กลุ่มละ 100,000 บาท/ปี เพื่อพัฒนาศักยภาพการประกอบอาชีพของชาวประมงท้องถิ่นที่มีกว่า 2,800 กว่ากลุ่ม เพิ่มผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการ และมีรายได้ใหม่ๆ (วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท) และตั้งเป้าปลดล็อคประมงพาณิชย์ ภายใต้ IUU
7.เพิ่มค่าตอบแทนอาสาสมัครเกษตรประจำหมู่บ้าน (อกม.) 1,000 บาท/เดือน เพื่อเป็นผู้ประสานงานหลักระหว่างภาครัฐและเกษตรกร เพิ่มศักยภาพภาคการเกษตรไทย (วงเงิน 900 ล้านบาท)
สวัสดิการ
8.ชมรมผู้สูงอายุรับ 30,000 บาท ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตรอบด้าน (วงเงิน 2,400 ล้านบาท)
9.ฟรีนมโรงเรียน 365 วัน เพื่อขยายระยะเวลาการดื่มนมของเด็กนักเรียนจากระดับอนุบาล จนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 จากเดิม 260 วัน เพื่ออส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกายของเด็ก (วงเงิน 2.07 หมื่นล้านบาท)
การศึกษา
10.เรียนฟรี ถึงปริญญาตรี สาขาที่ตลาดต้องการ เพื่อผลิตบัณฑิตเข้าสู่ตลาดแรงงาน เพื่อเดินหน้าระบบเศรษฐกิจ ซึ่งไทยยังขาดแคลนใน กลุ่มเทคโนโลยี และนวัตกรรม (วงเงิน 500 ล้านบาท)
11.อินเทอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด ทุกหมู่บ้าน ทุกห้องเรียน เพื่อสร้างสังคม และการศึกษาที่ทันสมัย โดยติดตั้งสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สาย 1 ล้านจุดทั่วประเทศ และเพื่อส่งเสริมการค้าออนไลน์สำหรับประชาชนทั่วไปด้วย (วงเงิน 3,600 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายโครงการ เช่น
ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอ "ที่มารายได้" เพื่อใช้ดำเนินนโยบาย มาจากการ "ปรับลดงบประมาณบางรายการ" เช่น งบกลาง รายการใช้จ่ายสำรองฉุกเฉิน 100,000 ล้านบาท , ภาษีที่จัดเก็บจากผู้มีรายได้สูง 32,200 ล้านบาท และการเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บภาษีอีก 1 แสนล้านบาท