นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครนายก เขต2 เบอร์2 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ได้โพสต์คลิปเผยแพร่ทางเพจเฟซบุ๊ก”ชาญชัย อิสระเสนารักษ์”ถึงเรื่องทุจริตการเลิอกตั้งว่า การทุจริตเลือกตั้งในจ.นครนายก เมื่อปี 2554 ที่นำเรื่องนี้มาพูดไม่ใช่เอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่
แต่เป็นเรื่องที่ต้องเปิดเผยต่อสื่อและสังคม ความจริงวันนี้ตนต้องนำเรื่องนี้ร้องเรียนต่อ กกต.กลาง เพื่อให้ กกต.ลงโทษเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องและคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง( กปน.)ที่มีการทุจริตเมื่อปี 2554 ซึ่งตนได้ฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรมที่จ.นครนายก ขณะนั้นว่า มีการทุจริตเลือกตั้ง โดยเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 1 และ 19 มีการนำรายชื่อของบุคคลที่ไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง มาสวมสิทธิ์และลงคะแนนในบัตรเลือกตั้ง
โดยการปลอมแปลงลายมือชื่อของผู้ที่ไม่ได้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง มีทั้งการเซ็นปลอมชื่อแทน และการใช้ลายพิมพ์นิ้วมือในต้นขั้วบัตร เพื่อฉีกบัตรลงคะแนนเอาไปกาสวมสิทธิ์ ทั้งหมด500 กว่าราย
“เหตุเกิดขึ้น ผมจึงได้นำเรื่องนี้ร้องต่อศาลตามคำพิพากษา หมายเลขคดีแดงที่ 1604/2556 วันที่ 26 ส.ค. 2556 ซึ่งตนฟ้องศาลตั้งแต่ปี 2554 โดยขอหมายศาลเรียกเอกสารที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งปี 2554 อาทิ แบบ ส.ส.10 หรือบัญชีรายชื่อของผู้ที่มาใช้สิทธิ์ลงคะแนน ที่จะระบุเลข13 หลักในบัตรประชาชนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง พร้อมชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด ลำดับเลขที่ของการใช้สิทธิ์ โดยจะมีการให้ผู้ใช้สิทธิ์ต้องเซ็นชื่อ หรือพิมพ์ลายนิ้วมือในผู้ที่ไม่สะดวกเขียน ซึ่งผู้ที่มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนของแต่ละคนมาแสดงและเซ็นชื่อ
รายชื่อเหล่านี้ถูกเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งและคนใน กกต. จ.นครนายกนำไปเซ็นชื่อแทนผู้ที่ไม่มาใช้สิทธิ์เสียเอง ทั้งเขียนเลขบัตรประชาชน13 หลักเอง และเซ็นชื่อแทนเอง โดยเป็นลายมือของคนๆเดียวกันในเอกสารหลายแผ่น ตามที่ปรากฏเป็นหลักฐาน การเซ็นชื่อเพื่อสวมสิทธิ์แทนเพื่อเอาบัตรเลือกตั้งไปลงคะแนน แทนผู้ที่ไม่ได้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง” นายชาญชัย ระบุ
นายชาญชัย กล่าวต่อว่า ศาลได้มีคำพิพากษา หมายเลขคดีแดงที่1604/2556 ในหน้าที่7 ที่สรุปสาระว่า มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง โดยมีการนำบัตรเลือกตั้ง ไปใช้เขียนชื่อของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในข่องลายมือชื่อของผู้ที่มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ทั้งที่ในการแสดงตนเพื่อขอรับบัตรเลือกตั้งต้องมีการแสดงตนและลงรายมือชื่อของแต่ละบุคคลก่อน จึงสามารถขอรับบัตรเลือกตั้งไปลงคะแนนได้
จากการตรวจสอบพบว่า มีลักษณะทำนองเดียวกันทั้งหมด500 กว่าราย และพบว่ามีกรณีที่มีรายมือชื่อของผู้ที่มาแสดงตนเพื่อใช้สิทธิในแบบ ส.ส.10 เมื่อตรวจสอบกับต้นขั้วบัตร พบว่า ไม่ได้มีการลงรายมือชื่อไว้ในแบบแสดงตน แต่เป็นการใช้ลายพิมพ์นิ้วมือในต้นขั้วบัตรแทน บางรายมีการลงราย มื่อชื่อในแบบส.ส.10 แต่ในต้นขั้วบัตร มีการเขียนชื่อลักษณะตัวบรรจง ซึ่งเป็นลายมือชื่อเดียวกัน241 ราย
ตนตรวจพบการทุจริต โกงเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่ 1 และ19 ตำบลพรหมณี อำเภอเมืองนครนายก ทั้ง2 หน่วยเลือกตั้งนี้ ตั้งอยู่ในโรงเรียนนายร้อย จปร. โดยมีการนำรายชื่อของเจ้าหน้าที่และนักเรัยนนายร้อย จปร.ที่ไปออกสนามและไม่ได้ใช้สิทธิ์ โดยเจ้าหน้าที่ของ กกต. ร่วมกันกระทำการกับ กปน. ใช้รายชื่อของเจ้าหน้าที่และนักเรียนนายร้อย จปร.ไปเขียนเซ็นชื่อสวมสิทธิ์เพื่อเอาบัตรเลือกตั้ง ที่มีทั้งการเซ็นชื่อแทน และไม่เซ็นชื่อแต่ปั้มลายพิมพ์นิวมือ ไปกาใช้สิทธิ์เลือกตั้งแทน โดยหย่อนลงในหีบบัตรเลือกตั้ง รวมกว่า 500 ราย
นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกเขต พบว่ามีการบันทึกไม่ถูกต้อง โดยมีการแก้ไขตัวเลขคะแนนไม่ตรงกับความเป็นจริงคือ มีการเอารายชื่อของผู้ขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกเขต 79 ราย มาใช้สิทธิ์ลงคะแนนซ้ำในเขตเลือกตั้งอีกซึ่งมีเอกสารประกอบแนบท้ายคำพิพากษาศาลหน้าที่ 13-14 ปรากฏว่ามี กปน. และเจ้าหน้าที่ของ กกต. นครนายกมีการทุจริตตามคำพิพากษา
“แต่จนถึงบัดนี้ กกต.กลาง ยังไม่เคยลงโทษเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่ร่วมกันกระทำความผิดทุจริตโกงการเลือกตั้งเหล่านี้เลย แม้แต่คนเดียว ดังนั้น ผมจะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต. กลางต่อไป และไม่ได้มีแค่เจ้าหน้าที่แค่ 2 หน่วยเลือกตั้ง แต่ตามเอกสารที่พบการทุจริต มีทั้งหมด 114 หน่วยเลือกตั้งในการเลือกตั้งปี 54 ครั้งนั้น ผมแพ้เลือกตั้งไป 113คะแนน และมีการนับคะแนนใหม่17 หน่วยเลือกตั้ง ได้คะแนนกลับมาเพิ่มอีก 2 คะแนน คือการเลือกตั้งที่จ.นครนายก ที่มีการโกงกันเป็นขบวนการอย่างมโหราฬ
ผมไม่อยากให้เหตุการเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยในการเลือกตั้งทั่วไป14 พ.ค. 2566 อีก ซึ่งกำลังได้ข่าวว่า จะมีการกระทำเช่นนี้เกิดขึ้นอีกที่จ.นครนายกอีก จึงขอถึง กกต.กลาง และกกต.จ.นครนายก ว่าทำอะไรให้ตรงไปตรงมา โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตามคำขวัญและหน้าที่ของกกต. เพราะท่านเป็นด่านแรกที่ต้องแก้ไขปัญหาให้บ้านเมือง อย่าซ้ำเติมบ้านเมืองให้บอบช้ำมากกว่านี้เลย ท่านมีหน้าที่ทำการเลือกตั้งให้สุจริตโปร่งใส ตรวจสอบได้ อย่าไปร่วมทุจริตกับเขาด้วย เพราะขณะนี้จ.นครนายก มีการซื้อเสียง มีการดูถูกพี่น้องประชาชนซื้อเสียงละ500 บาทหรือ 1,000 บาท เป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย
ขอให้กกต. อย่าปิดหู ปิดตาตัวเอง ผมไม่มีเวลาไปร้องเรื่องนี้ต่อ กกต. กลางแล้ว เพราะถูก กกต.จ.นครนายก สั่งแขวนตัดสิทธิ์สมัครผมไป 19 วัน เหลือเวลาหาเสียงอีก 1 วันครึ่ง แต่ผมจะให้ตัวแทนไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต.กลางเพื่อให้มีคำลงโทษคนทำผิดในกรณีนี้ จึงขอให้ กกต. ทำงานตรงไปตรงมาเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมืองด้วย” นายชาญชัย กล่าว