นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยโดยกล่าวว่า จากที่ต่อสู้มาตลอด เพราะอยากมีส.ส.กทม.ในครั้งนี้ ก็กล้าๆกลัวๆมาตลอด แต่เห็นพี่น้องวันนี้แล้วมั่นใจว่า พรรคภูมิใจไทยจะได้เกิดในพื้นที่กทม.แน่นอนจะสวดมนต์ว่าขอให้พี่น้องเข้าคูหากาเบอร์ 7 และกาให้คนของพรรคภูมิใจไทย
พรรคทำงานมา 4 ปีในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ถ้ายึดกรอบเดิมๆว่าจังหวัดไหนไม่เลือกจะไม่ทำงานให้ แต่พรรคคิดตรงกันข้าม เพราะจังหวัดไหนไม่เลือกยิ่งต้องทำงานให้เขาเลือกพรรคจนได้ พรรคยึดคติตื๊อครองโลก ตื๊อด้วยการทำงาน ไม่ใช่ตื๊อด้วยการด่าทอต่อว่าพรรคอื่น
“การทำงานเพื่อประชาชนต้องมีประสบการณ์ มีความตั้งใจ ไม่ใช่ขายของอยู่จะมาเป็นนายกฯได้อย่างไร กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียว กรุงเทพฯยิ่งแล้วใหญ่ เพราะต้องมีประสบการณ์มาทำงาน จึงขอให้ใจเย็นๆ เพราะจะมารับใช้บ้านเมือง ต้องอย่ามองประชาชนเป็นเสาไฟฟ้า วันนี้เขาเข้าถึงข้อมูลข่าวสารแยกแยะได้ เชื่อว่า ประชาชนเห็นการทำงานของพรรคภูมิใจไทยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ว่าพูดแล้วทำ” นายอนุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการปราศรัย นายอนุทิน ได้สั่งให้ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้งหมดของพรรคที่อยู่บนเวทีก้มกราบพี่น้องประชาชนที่มารับฟังการปราศรัยเพื่อขอคะแนน พร้อมกับพูดว่าถ้าใครไม่กราบขอให้สอบตก
ต่อมา เวลา 19.05 น. ระหว่างที่นายอนุทิน กำลังปราศรัยอยู่บนเวทีนั้น ปรากฏว่านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พร้อมมวลชนบางส่วนขึ้นไปบริเวณทางด่วนสะพานพระราม 9 เหนือลานโชว์ดีซี พร้อมชูป้าย ข้อความ "เราไม่เอากัญชา เอากัญชากลับไป" "กัญชาฆ่าเยาวชน" "ยกเลิกกัญชา" "บ้ากัญชาพาสังคมพัง"
โดยชูไปยังเวทีปราศรัย จากนั้นเมื่อนายอนุทินหันไปเจอจึงได้ ปลุกประชาชนปรบมือให้กับนายชูวิทย์ ที่มาชูป้ายเชียร์พรรคภูมิใจไทย พร้อมตะโกนขอให้นายชูวิทย์ลงมา "ลงๆ ลงมาโดดมาๆ อย่าลืมว่าเรานัดกินข้าวกันอยู่ แล้วอาทิตย์หน้าเจอกันนะ" นายอนุทินกล่าวเพียงเท่านั้นก็กลับเข้าสู่การปราศรัยต่อ โดยระว่า มีกระบวนการขัดขวางรถไฟฟ้าสายสีส้ม กลัวว่าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะมีคะแนนท่วมท้น จึงไปรับจ้างเขามาป่วน ใครห้ามใช้สายสีส้มเป็นคนทำลายชาติ ขอให้พี่น้องโห่ใส่
ทั้งนี้เวลา 19.15 น. เจ้าหน้าตำรวจเข้าเจรจาให้นายชูวิทย์ และทีมงานออกจากบริเวณทางด่วนเนื่องจากกีดขวางการจราจร ซึ่งทันทีที่นายชูวิทย์เคลื่อนตัวออกไป นายอนุทิน ก็ตะโกนว่า "ออกไปไปไกลๆ" เช่นเดียวกับประชาชนที่มาฟังปราศรัยก็โห่ไล่ พร้อมตะโกนว่า "ไม่แน่จริงนี่หว่า ถ้าแน่จริงให้ลงมาข้างล่าง"
ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง กทม. ปราศรัยตอนหนึ่งว่า พรรคภูมิใจไทยมั่นใจมาก เราไม่สนกระแส เพราะเรามั่นใจในตัวพี่น้องประชาชน วันนี้อนุทินอยู่ตรงกลางเดินหน้าแก้ปัญหาไม่สนใจใครเลย วันนี้พี่น้องกลับไปขึ้นแฮชแท็กเลย “อนุทินไปต่อไม่รอแล้ว” ปล่อยให้ลุงกับหลานเขาทะเลาะกันไป เพราะวันนี้ปัญหาของพี่น้องประชาชนมีเยอะ นายอนุทินจึงขอเดินหน้าทำงานให้พี่น้องประชาชนลูกเดียว
“มีคนปรามาสหัวหน้าพรรค และตน ว่าไม่เคยมีส.ส.ในกทม. อยู่บ้านนอกดีแล้ว ซึ่งหัวหน้าพรรคบอกอย่าไปโต้เถียงหรือว่าใคร ให้ตั้งใจทำงานการเมืองแบบใหม่ คือพูดเรื่องที่อยากทำ อยากตั้งใจแก้ปัญหาให้ประชาชน ขณะนี้มีบางคนอ้างว่าตัวเองเป็นคนรุ่นใหม่ คิดใหม่ แล้วขอให้เลือกเขา แต่จะใหม่ได้อย่างไร เพราะไปขึ้นเวทีไหนก็ไปด่าพ่อล่อแม่คนอื่น แต่คนที่ใหม่จริงๆคือเรา เพราะนายอนุทินสั่งทุกคนว่าเวลาขึ้นเวทีอย่าด่าคนอื่น แต่ให้พูดถึงสิ่งที่จะทำให้ประชาชน เราไม่เอาความขัดแย้ง ไม่ทะเลาะกับใคร แต่ก็มีคนมาพูดว่าพรรคภูมิใจไทยอยู่กับใครก็ได้ ทำไมไม่ถามหัวหน้าของผมเลย ว่าไม่ใช่อยู่กับใครก็ได้ เพราะเราไม่เอาแก้มาตรา 112 เราต้องรู้คุณแผ่นดิน พวกเราภูมิใจไทยพร้อมยืนหยัดปกปักษ์รักษา 3 สถาบันหลัก ไม่มีใครชัดเจนกว่านี้แล้ว หัวหน้าผมไม่ค่อยพูดแต่ทำอย่างเดียว ไม่เหมือนใครบางคนที่พูดอย่างเดียว” นายพุทธิพงษ์ กล่าว