เวทีปราศรัยใหญ่พรรคก้าวไกล ที่จัดขึ้นวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 ณ อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง เปิดประตูอาคารตั้งแต่เวลา 16.00 น. และได้เริ่มปราศรัยในเวลา 18.00 น. ภายใต้แคมเปญ คำตอบสุดท้าย “ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน” ซึ่งในเวลาประมาณ 20.00 น. ประชาชนได้เข้าร่วมฟังปราศรัยเต็มทั้งภายในอาคาร และสนามหญ้าด้านนอก
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ฝ่ายนโยบาย ได้ขึ้นกล่าวปราศรัย บนเวทีถึงคำถามที่มีต่อนโยบายพรรคก้าวไกล ที่มีมากถึง 300 นโยบายว่า เป็นเพราะพรรคก้าวไกล มีวิธีคิดนโยบายอย่างละเอียดปราณีต ตั้งแต่กระบวนการรับฟังปัญหา พัฒนานโยบาย ทดลองนำไปใช้กับผู้ประสบปัญหาในพื้นที่จริง
เพื่อให้มั่นใจว่าเดินมาถูกทาง ไม่ใช่ทำนโยบายแบบปะผุ ที่แก้ปัญหาได้เพียงชั่วคราว แต่พรรคก้าวไกลต้องการทำนโยบายที่แก้ปัญหาได้ชั่วโคตร
ศิริกัญญา กล่าวว่า นโยบายแก้ปัญหาปากท้องของผู้ที่เป็นรัฐบาลที่ผ่านมา มีอยู่ 2 แนว คือ "แนวทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ" และ "แนวเคยทำมาแล้ว ขอทำอีก" ซึ่งทั้ง 2 แนวนี้ ไม่เคยแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง พรรคก้าวไกลจึงขอทำใหม่
ที่ไม่ใช่มองประชาชนเป็นเพียงฟันเฟืองเล็กๆในเครื่องจักรเศรษฐกิจ ที่คอยหยอดน้ำมันเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ที่ผ่านมาปากท้องประชาชนดีขึ้นอย่างยั่งยืนไม่ได้เพราะ ไม่เคยมีพรรคการเมืองใดต่อสู้กับทุนผูกขาด และไม่เคยมีพรรคการเมืองใดสร้างระบบรัฐสวัสดิการ
ศิริกัญญา กล่าวถึงหลายนโยบายที่สุ่มเสี่ยงต่อการเผชิญการต่อต้าน หรือทำให้คะแนนเสียงลดลง และย้ำว่า นั่นเป็นเพราะพรรคก้าวไกล ไม่ได้มีเป้าหมายเพียงแค่หวังคะแนนเสียง เพื่อการชนะเลือกตั้งเท่านั้น แต่เพราะมองเห็นประเทศดีขึ้นกว่านี้ได้ในระยะยาว จึงจำเป็นต้องทำนโยบายที่มีความเสี่ยงเหล่านี้ และการที่ยังมีคนต่อต้าน นั่นหมายความว่าว่า พรรคก้าวไกลยังทำงานทางความคิดไม่มากพอ และต้องทำงานหนักมากขึ้น
ศิริกัญญาย้ำในตอนท้ายว่า วันนี้พรรคก้าวไกล ถือธงนำในหลายๆเรื่อง จนหลายพรรคต้องเดินตาม ซึ่งเชื่อว่า ประชาชนมองออกว่า พรรคใดทำอย่างเอาจริงเอาจัง และไม่ใช่เพียงกล่าวอ้างว่าเคยพูดมาหมดแล้ว แต่ไม่มีการลงมือทำจนสุดทางเช่นพรรคก้าวไกล
ศิริกัญญาประกาศความพร้อม เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อดำเนินนโยบาย 300 นโยบาย ว่า
"เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ยังมองไม่เห็นความเป็นไปได้ ที่พรรคก้าวไกลจะได้เป็นพรรคหลักจัดตั้งรัฐบาล แต่ในวันนี้พบว่า พรรคก้าวไกลพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ให้พิธา เป็นนายกฯ และ300 นโยบายคงจะไม่พอสำหรับ 20 กระทรวง 700 กว่าหน่วยงาน ที่ต้องการนโยบายเพื่อไปศึกษา และดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาลก้าวไกล พร้อมทิ้งท้าย กาก้าวไกลทั้งแผ่นดิน"