นับถอยหลังสู่การนับคะแนนผลการเลือกตั้งเพื่อให้ได้รัฐบาลชุดใหม่ และนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 มาบริหารประเทศอีก 4 ปีนับจากนี้ พรรคใดจะเข้าวินทั้งในส่วนของ ส.ส.แบบแบ่งเขต และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ อีกไม่กี่อึดใจจะได้รู้กัน “ฐานเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์ นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก ถึงมุมมอง ทิศทางแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และความคาดหวังของภาคเอกชน
ต่อข้อถามที่ว่าอยากได้รัฐบาลแบบไหน พรรคเดียว, พรรคผสม ในขั้ว หรือข้ามขั้ว ประธาน สรท.กล่าวว่าพรรคเดียวต้องได้คะแนนเสียงเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หรือที่เรียกว่า Landslide ซึ่งปัจจุบันจากที่แต่ละพรรคการเมืองมีการแสดงวิสัยทัศน์ต่างก็มีจุดเด่นเฉพาะของตัวเองที่เป็นที่สนใจของประชาชน มองว่าการได้คะแนนเบ็ดเสร็จอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก
ดังนั้นโอกาสได้พรรคผสมร่วมจัดตั้งรัฐบาลจึงมีความเป็นไปได้มากเนื่องจากพรรคการเมืองมีความโดดเด่นหลายพรรคและมีโอกาสได้ที่นั่งในสภาฯ จาก สส. แต่ละเขตพื้นที่ ประกอบกับนักการเมืองที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีความสามารถสูง ก็เสนอตัวเข้ามาบริหารประเทศอยู่หลายพรรคและมีฐานเสียงคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย
“สรุป การได้พรรคผสมจึงมีความเป็นไปได้สูง ซึ่งต้องทำงานเพื่อประโยชน์ประเทศชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตน และบูรณาการระบอบประชาธิปไตยให้เข้มแข็งมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่จะครบรอบ 100 ปีประชาธิปไตยในปี 2575”
สำหรับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรนั้น นายชัยชาญ กล่าวว่า ผู้นำที่ดีควรมี "3 เก่ง" ในแต่ละด้าน 1.เก่งคิด เป็นนักคิดกลยุทธ์และพัฒนาตลอดเวลา 2.เก่งทำ เมื่อคิดแล้วต้องมีการขับเคลื่อนในการทำงานให้เกิดผลสำเร็จ และ 3.เก่งคน จะต้องทำงานร่วมกันกับทุกฝ่ายแบบไร้รอยต่อและขจัดความขัดแย้งต่าง ๆ
ขณะที่ภารกิจเร่งด่วนรัฐบาลใหม่ ที่ต้องเร่งดำเนินการทันทีในช่วง 100 วันแรกได้แก่ บริหารจัดการเรื่องค่าไฟฟ้า เนื่องจากเป็นต้นทุนของทั้งภาคครัวเรือนและภาคการผลิตทั่วประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่มีความตรึงตัวของสภาพคล่องด้านค่าใช้จ่าย
การอำนวยความสะดวก ตั้งงบประมาณสนับสนุน เรื่องของพลังงานทางเลือก (Renewable energy) ทั้งภาคครัวเรือนและภาคการผลิต ให้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานทางเลือก ลดการพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าให้เป็นรูปธรรม เช่น ขั้นตอนการขออนุญาตติดตั้งดำเนินการ การอุดหนุนค่าติดตั้ง และรับซื้อพลังงานทางเลือกที่เป็นพลังงานสะอาด
การกระตุ้นการส่งออกด้วยกิจกรรมทางการส่งเสริมการขายระหว่างประเทศคู่ค้าสำคัญ และส่งเสริมการลงทุนในประเทศผ่านโครงการต่าง ๆ นอกจากนี้คือ การเร่งระบายสินค้าเกษตร และตั้งงบประมาณสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกร SME ให้สามารถยกระดับ พัฒนาคุณภาพให้สามารถส่งออกสินค้าทางการเกษตรคุณภาพอย่างสมบูรณ์
การสนับสนุนและเร่งยกระดับการผลิตให้สอดคล้องด้านสิ่งแวดล้อมและผลิตสินค้าให้รองรับมาตราการต่าง ๆ ในต่างประเทศโดยเฉพาะยุโรป CBAM, Carbon credit และการประชุมร่วม ระหว่างภาครัฐและเอกชน และสานต่อในส่วนของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์(กรอ.พาณิชย์)ในการกำหนดแผนยุทธศาสตร์การส่งออกและโลจิสติกส์ในปีนี้และปี 2567
เมื่อถามถึงความท้าทายโลกยุคใหม่ที่รัฐบาลหลังเลือกตั้งต้องเตรียมรับมือ นายชัยชาญ ระบุว่า มีหลายเรื่อง ที่สำคัญ ๆ ได้แก่ Geopolitics (Decoupling) รัฐบาลใหม่ต้องระมัดระวังเรื่องนี้เป็นสำคัญ ,Bank crisis / Economic slowdown - Inflation ต้นทุนเพิ่มขึ้นรอบด้าน / Regionalization, มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในทุกบริบทของแต่ละกิจกรรม รวมถึงโรคระบาดและปัญหาสุขภาพของผู้คน เป็นต้น