นายจตุรงค์ สุขเอียด อดีตบรรณาธิการข่าวเฉพาะกิจ สถานีโทรทัศน์ไอทีวี โพสต์ข้อความผ่าน facebook ส่วนตัวโดยมีข้อความระบุว่า
ไอทีวียังเป็นทำสื่ออยู่ไหม?
มีคนถามหลายคนว่า ตอนนี้สถานะของไอทีวียังทำสื่ออยู่ไหม
นายจตุรงค์บอกว่า ตนเองก็อยากรู้
นายจตุรงค์ บอกอีกว่า จะขออธิบายจากที่ได้รับรู้เองมากับตัว โดยระบุว่าไม่ว่าจะเป็นความบังเอิญหรือไม่
วันที่6เมษายนที่ผ่านมา ได้รับโทรศัพท์จากอดีตเพื่อนไอทีวี ที่รับรู้สถานะไอทีวีอยู่
เขาบอกว่า พี่จอยรู้ใช่ไหมว่า ไอทีวีชนะคดีกับสปน.และชนะคดีในศาลปกครองกลางแล้ว
ตอนนี้คดีอยู่ในชั้นศาลปกครองสูงสุด
อีกประมาณ2เดือน คือมิถุนายน (ก็หมายถึงเดือนนี้ )จะมีคำวินิจฉัยมา คิดว่า น่าจะยืนพิพากษาตามอนุญาโตตุลาการและศาลปกครองกลาง
คือชนะ
นายจตุรงค์จึงถามต่อว่าแล้วยังไง?
เขาอธิบายว่า ตอนนี้บริษัทยังไม่ได้ปิดเพราะรักษาสถานะในการสู้คดี
มีเงินลงทุนเดิมอยู่ตั้งแต่ถูกปิดสถานีอยู่
แล้วมีอะไรเกี่ยวกับพี่
คือถ้าชนะคดีแล้ว
คือไอทีวีก็จะได้สิทธิคืนมา
เผื่อสนใจรายการ
ผมถามว่า รายการหมายถึงมีรายการจะผลิตหรือจ้างไปผลิต
เขาว่า ไอทีวี มีลิขสิทธิ์รายการที่เคยดังๆอยู่ในมือ
ชื่อไอทีวี และรายการถอดรหัส ย้อนรอย ที่ไปจดเป็นทรัพย์สินทางปัญญาไว้
เลยบอกว่า สรุปคือมีแต่ยี่ห้อไอทีวีและชื่อรายการ
ผมว่า ตอนนี้โลกของสื่อเปลี่ยนไป ไม่มีใครเอาทุนเยอะๆมาซื้อแต่ยี่ห้อไอทีวี มาผลิตรายการ หรอก
เขาไปเปิดยูทูบทำเอาเอง ง่ายและถูกกว่า
แล้วถ้ามีคนอยากซื้อชื่อไอทีวีหรือรายการเช่นถอดรหัสไปทำ
ถ้าไม่ใช่คนเดิมหรือสไตล์การนำเสนอมันไม่ใช่ ใครจะยอมมาดู
ทำไม เมื่อชนะคดีแล้ว มีเงินของผู้ถือหุ้นรายเล็กๆเดิมอยู่
แทนที่แบ่งเป็นเงินคืนไปคงได้กันคนละไม่กี่สลึง
ถ้าเอามาสร้างเนื้อหาแบบเดิมในช่องทางใหม่ๆ
ในชื่อไอทีวีหรือรายการของไอทีวี
ชวนคนไอทีวีเก่าๆกลับมาช่วยกันทำ น่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่า ขายลิขสิทธิ์ที่มีแต่ชื่อ
เขาว่าน่าสนใจ....
ผมนำเรื่องนี้ไปบอกกับอดีตคนไอทีวีสองสามคน
ว่า เดือนมิถุนาฯ ไอทีวีอาจรู้ผลชนะคดี
สปน.เขาว่าน่าจะชนะ...
นายจตุรงค์ บอกด้วยว่า เป็นข่าวที่ยอมรับว่า รู้สึกตื่นเต้น หากไอทีวีกลับมาทำข่าวไม่ว่าจะผ่านช่องปกติหรือออนไลน์
แต่คิดไม่ถึงว่า ไม่กี่วัน มีข่าวจากกกต.ช่วงที่กำลังหาเสียงเลือกตั้งว่า อีกสองวันจะมีข่าวใหญ่ให้ติดตาม
ในฐานะนักข่าวก็อยากรู้ แต่ก็เงียบหายไป
จนก่อนลงคะแนนเลือกตั้งไม่กี่วัน ปรากฎมีคนไปร้องกกต.ว่านายพิธา ถือหุ้นไอทีวี
นักข่าวก็ถามกกต. ว่านายพิธา จะขาดคุณสมบัติหรือไม่
กกต.ก็ตอบว่า ไม่เร่งรัด แล้วก็ผ่านเลือกตั้งมา
ผมข้องใจ ในบทบาทปัจจุบันไอทีวี จึงถามเพิ่มเติมภายหลังว่า หลังจากจอดำไปเมื่อปี2550แล้ว ยังทำสื่อกันอยู่ไหม...
เขาว่า ไอทีวี ไม่มีทีมผลิตสื่อของตัวเองนานแล้ว ตั้งแต่จอดำ
แต่มีการลงทุนด้านอื่นตามข่าว....
แล้วหุ้นไอทีวี มีการซื้อขายกันได้อยู่ไหม
เขาว่าหุ้นไอทีวีถูกถอดจากตลาดหลักทรัพย์แล้วเมื่อปี2557
แต่หุ้นไปอยู่ที่ศูนย์รับฝาก
บังเอิญอะไร ไม่รู้พี่ก่อนจะมีคนไปร้องเรียนเรื่องหุ้นคุณพิธา
มีคนหนึ่งไปซื้อหุ้นกันแล้วเปลี่ยนชื่อผู้ถือ
ผมไม่เข้าใจเรื่องการขายหุ้นนอกตลาดแต่เขาว่าก็ทำได้เหมือนในตลาด มีการซื้อกันแล้วเปลี่ยนผู้ถือได้
แปลกนะผมว่า มันไม่มีราคา แล้วนิ่งมานานทำไมมาซื้อกัน
แล้วตอนนี้ ไอทีวี มีแผนทำสื่อไหม
เขาว่า ไอทีวี ยังไม่มีทีมผลิตคอนเท้นต์ของตัวเอง
แต่ยังมีวัตถุประสงค์ตามจดแจ้งอยู่สามารถจัดหารายการได้
ถ้าจำไม่ผิด คาดว่า เดือนนี้ คงรู้ผลจากศาลปกครองสูงสุด ถึงสถานะของไอทีวีว่าจะชนะคดีตามคาดหรือไม่
นี่คือสิ่งที่ไม่เฉพาะแต่เจ้าของ นักลงทุนรายเล็ก รายย่อย จนถึงอดีตพนักงานอย่างเรารอคอยมาแสนนาน
แต่ใครจะคิดว่า มันจะบังเอิญอะไรกับไทม์ไลน์ทางการเมืองพอดิบพอดีขนาดนี้
ไอทีวี เกิดจากผลพวงเหตุการณ์นองเลือดพฤษภา35
เปลี่ยนมือจากนักลงทุนหลายรายมาสู่เครือชินฯ
จอดำจากเหตุการณ์รัฐประหารปี49
และตอนนี้คงกำลังครึ่งหลับครึ่งตื่น ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออำนาจทางการเมืองปี66
ถึงตอนนี้ ในใจอยากให้ไอทีวีหลับไปตลอดกาลเลย
อย่าตื่นขึ้นมาสร้างความวุ่นวายใดๆในบ้านเมืองนี้อีก
ไม่ต้องห่วงคนไอทีวีหรอกนะ ทุกคนปลอดภัยดี